ทำไมบริษัทต้อง Layoff?

ชีวิตจริงการทำงาน เราทุกคนมีสิทธิ์ “โดนให้ออก” ด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่งเสมอ แม้ว่าเราจะเก่งมีความสามารถหรือสร้างรายได้ให้บริษัทมากแค่ไหนก็ตาม

เราอาจจะเคยเห็นตัวอย่างจากซีอีโอชั้นนำของโลกที่โดนไล่ออกจากบริษัทที่ตัวเองก่อตั้งขึ้นมาเองกับมือ ไม่ว่าจะเพราะทำผลประกอบการได้ไม่ตรงเป้าที่บอร์ดบริหารคาดหวัง หรือมีจุดยืนอุดมการณ์ที่ดันไม่ตรงกับผู้บริหารคนอื่น ๆ จนต้องออกไปตั้งหลักใหม่

 

แล้วทำไมการปลดพนักงาน ถึงเป็นทางเลือกที่หลายบริษัทใช้?

 

ในมุมบริษัท การปลดพนักงานเป็นวิธีลดต้นทุนที่เร็วที่สุดที่บริษัทหนึ่งจะทำได้แล้ว พนักงานทุกคนมาพร้อมต้นทุนค่าใช้จ่ายของบริษัท และมีผลต่อกำไร เมื่อจำนวนพนักงานลดลง ต้นทุนก็ลดลงและตัวเลขกำไรจึงเพิ่มขึ้นนั้นเอง

 

อะไรคือสาเหตุที่นำไปสู่การปลดพนักงานของหลายบริษัทใหญ่ในรอบปีที่ผ่านมานี้?

  • กลางปี 2022 Shopee ปลดพนักงานกว่า 7,000 คนทั่วโลก
  • ปลายปี 2022 Facebook ปลดพนักงานกว่า 11,000 คนทั่วโลก
  • ต้นปี 2023 Amazon ปลดพนักงานกว่า 18,000 คนทั่วโลก
  • ต้นปี 2023 Google ปลดพนักงานกว่า 12,000 คนทั่วโลก

 

เมื่อการสร้างรายได้ทำได้ยากกว่าการลดค่าใช้จ่าย บริษัทจึงเลือกทำอย่างหลัง (พร้อมตัดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยของบริษัท) 

ส่วนสาเหตุในระดับ Mega คือ ภาวะเงินเฟ้อทั่วโลกในหลายประเทศ โดยในปี 2022 ที่ผ่านมา เฉลี่ยแล้วทั่วโลกมี อัตราเงินเฟ้อ (Inflation rate) สูงถึง 9% เลยทีเดียว! 

อีกทั้งเจอกับสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ส่งผลให้น้ำมันขึ้นทั่วโลก สุดท้ายสินค้าข้าวของก็ขึ้นตามเพราะค่าน้ำมันเป็นต้นทุนของสินค้าแทบทุกอย่าง บวกกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในการจับจ่ายซื้อของยังไม่กลับมาเท่าเดิมก่อนยุคโควิด

นอกจากนี้ บางบริษัทที่แม้จะเป็นส่วนน้อย เช่น Zoom, Shopee, Netflix ได้โอกาสเติบโตแบบก้าวกระโดดจากยุคโควิด-19 ที่ช่วงปีนั้นจ้างพนักงานเพิ่มกันแบบไม่อั้น แต่พอทุกอย่างเริ่มกลับมาเป็นปกติ บริษัทเหล่านี้ก็กลับสู่ภาวะปกติและพบว่าพนักงานที่มีอยู่ดันมีค่าใช้จ่ายมากเกินความจำเป็นที่บริษัทต้องการจริงๆ

การปลดพนักงานชุดใหญ่ชนิดที่เกิดขึ้นกับหลายบริษัททั่วโลก จึงเป็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในรอบปีที่ผ่านมา พนักงานบริษัทชั้นนำเหล่านั้นส่วนใหญ่เป็น Talents ที่เก่งกว่าคนทั่วไปด้วยซ้ำ แต่ก็ยังโดนปลดอยู่ดี

แต่ถ้ามองในอีกมุมหนึ่ง เมื่อบริษัทปลดพนักงานไปแล้ว ค่าใช้ต้นทุนลดลงแล้ว และสถานการณ์กลับมาอยู่ในจุดที่พอดีตัว เมื่อเวลาผ่านไป กำลังซื้อของคนเริ่มกลับมา บริษัทเพิ่มกำลังการผลิต และต้องการจ้างพนักงานใหม่เพิ่มในที่สุด

แต่แม้จะมีคนถูกปลดเยอะ แต่ก็ยังมีพนักงานอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังคงเติบโตก้าวหน้าและได้เงินเดือนเพิ่มต่อไป 

สุดท้ายแล้วหนทางที่มั่นคงที่สุดสำหรับคนทำงาน คือการพัฒนาตัวเอง อย่างต่อเนื่อง (Endless learning) เกาะกลุ่มผู้นำทันเทรนด์และมีทักษะใหม่ๆ ที่เป็นที่ต้องการอยู่ตลอด  หาจุดยืนคุณค่าที่ตลาดยังไงก็ต้องการคุณ คนแบบเองที่นี้จะมีโอกาสสูงกว่าที่จะยังคงเติบโตท่ามกลางมรสุมการปลดพนักงาน ต่อให้ถูกปลดจริงๆ ก็จะมีบริษัทอื่นที่พร้อมรับคนเก่งแบบคุณไปร่วมงานด้วยอยู่ดี หรือแม้กระทั่งเลือกเดินออกมาเองเพื่อไปอยู่กับบริษัทใหม่ที่มีโอกาสเติบโตไปกับอนาคตได้มากกว่า

 

อ้างอิง :

Author

  • CareerVisa Team

    รวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการพัฒนานอกกรอบของคนทำงาน

Related   Articles

productivity

5 คำแนะนำจากปาก Elon Musk สู่ Ultra Productivity ใน 30 วัน

Productivity คือความสามารถในการทำงานหรือผลิตผลงานได้มากขึ้นในช่วงเวลาที่กำหนด โดยใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งมักวัดจากผลลัพธ์ที่ได้เมื่อเปรียบเทียบกับเวลาหรือความพยายามที่ใช้

หัวหน้าที่ดี

วิธีง่าย ๆ สู่การเป็น “หัวหน้าที่ดี” ที่ใคร ๆ ก็รัก

ไม่กลัวลูกน้องเก่งเกินหน้าเกินตา, ฟัง มากกว่า พูด, ชมเชยเมื่อทำดี และ ตำหนิแบบมีชั้นเชิง, ให้เครดิตกับทีม ไม่ใช่กับตัวเอง

นี่คือคุณสมบัติของ “หัวหน้าอันเป็นที่รักของลูกน้อง” ในฐานะหัวหน้างาน…เราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อเป็นหัวหน้าที่ดีขึ้นและลูกน้องรักมากขึ้น?

Presentation

Masterful Presentation : วิธีนำเสนอ สำคัญกว่า เนื้อหาที่พูด

1. Steve Jobs หยิบ MacBook Air ออกมาจากซองจดหมาย 2. หน้าสไลด์ที่มีแค่ 3 หัวข้อเท่านั้น 3. ซูชิคำเล็กๆ ที่ถูกจัดเรียงมาอย่างสวยงาม นี่คือตัวอย่างของ Masterful Presentation ศิลปะการนำเสนอขั้นเซียนที่สะกดใจผู้คน