ปกติเวลาเราพูดว่า ต้องการทำให้องค์กร productive / creative / scalable ขึ้น กลยุทธ์มักโฟกัสไปที่การ “เพิ่ม” เข้าไปให้มากขึ้น ใหญ่ขึ้น ถี่ขึ้น เข้มข้นขึ้น โดยลืมไปว่า บางเรื่องอาจจะ Less is more ทำน้อยแต่ได้มาก…น้อยๆ แต่เน้นๆ อาจจะดีกว่า
องค์กรยุคนี้จะบริหารคนอย่างไรให้เวิร์ค?
ฟังคำตอบกับ HR และ Leader แนวหน้าของไทยที่งาน PEOPLE PERFORMANCE CONFERENCE หนึ่งในงาน CTC2023 FESTIVAL
ถ้าทุกวันนี้คุณเข้าร้านกาแฟหรือคาเฟ่เกรดพรีเมียม เมื่อเดินตรงไปหน้าเค้าเตอร์เครื่องชงกาแฟและสังเกตซักนิด คุณจะพบว่าแทบทุกร้านมักใช้เครื่องชงกาแฟยี่ห้อ La Marzocco
Sephora ร้านบิ้วตี้ชั้นนำของโลกที่มีอยู่กว่า 2,700 สาขา ใน 35 ประเทศทั่วโลก แต่ภาพลักษณ์ร้านที่ดูสดใสเอเนอร์จี้บวกล้นทะลักขนาดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย…ถ้าไม่มีเบื้องหลังการบริหารพนักงานสไตล์ Sephora ที่มีอยู่กว่า 39,000 คนทั่วโลก ที่รวมทั้งศาสตร์ & ศิลป์ (Art & Science) เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
พวกเราส่วนใหญ่เจอมากับตัวว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เกิดภาวะ The Great Resignation การลาออกครั้งใหญ่ของคนทำงาน ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในสเกลใหญ่ทั่วโลก
ถ้าเราต้องการชักชวน Talents คนนอกเก่งๆ ให้มาจอยทีมกับเรา เมื่อมาจอยทีมแล้ว ก็อยากให้เค้าอยู่ทำงานกับเราไปนานๆ…เราจะใช้กลยุทธ์อย่างไร? หนึ่งในกลยุทธ์ที่หลายคนอาจมองข้ามไปบ้างคือ “สวัสดิการพนักงานเจ๋งๆ”
ปัญหาเรื่องคนเป็นอะไรที่ปวดหัว ปวดใจ และอาจรุนแรงกว่าปัญหาเรื่องงานด้วยซ้ำ โดยหนึ่งในปัญหาคลาสสิคคือการ “สื่อสาร” ที่ไร้ประสิทธิภาพ
Employee experience (EX) ประสบการณ์ของพนักงาน ประยุกต์มาจาก Customer experience หรือประสบการณ์ของลูกค้า เป็นการกระโดดข้ามจากฝั่งลูกค้ามายังฝั่งพนักงานภายในด้วยกันเอง