จะรับมืออย่างไร เมื่อสภาพจิตใจพังเพราะทำงานหนัก

การทำงานให้อะไรเราหลายอย่าง ทั้งความรู้ด้านการทำงาน เพื่อนร่วมงานที่ดี แต่นอกจากแง่บวกแล้วอย่างหนึ่งที่การทำงานให้เราได้เหมือนกันก็คือ “ความเหนื่อยล้า” บางคนรู้สึกเหนื่อยกับงาน กับสังคมที่ทำงานจนเข้าสู่โหมดใจพัง หรือ “Emotional Breakdown” มาดูกันว่าเราจะรับมือกับอาการนี้ได้อย่างไรบ้าง

“Emotional Breakdown” หรืออาการที่คน ๆ หนึ่ง เหนื่อยกับอะไรบางอย่างจนไม่อยากที่จะทำสิ่งนั้น หรือรู้สึกว่าอารมณ์ของเราในตอนนี้ ไม่พร้อมรับกับอะไรรอบตัวทั้งสิ้น เพราะเราได้รับแรงกดดันมามากพอแล้ว ตอนนี้ขอแค่ได้พักเยอะ ๆ ก็คงจะดี

หลายคนอาจจะมองข้ามเรื่องของสุขภาพจิตของตัวเอง ไม่ได้คิดว่าเราจะไปถึงจุดที่อารมณ์หรือความแข็งแกร่งทุกอย่างพังทลายลง แต่บอกเลยว่าอารมณ์และความรู้สึกของเรานี่แหละคือสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญมากที่สุด เพราะการมีสุขภาพจิตที่ดี คือสิ่งที่ทำให้เราสามารถทำกิจกรรมหรือทำงานรอบตัวได้อย่างเต็มที่ และทำผลงานออกมาได้ดี 

หากสุขภาพจิตพังหรือใจพัง บอกเลยว่างานที่ต้องทำหรือกิจกรรมรอบตัว ต้องออกมาอย่างไม่เต็มที่ การใช้ชีวิตเราก็จะดำเนินไปแบบไม่มีความสุขด้วยเช่นกัน

วันนี้ CareerVisa จึงอยากจะมายกวิธีแก้ปัญหา หากเรากำลังเผชิญหน้ากับสภาพจิตใจพังจากการทำงาน มาดูกันว่าเราจะทำอย่างไรได้บ้างให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

วิธีรับมือกับ Emotional Breakdown

 

ลองพักอยู่กับตัวเองสักแปป

หลายคนทำแต่งาน ไม่เคยมีเวลาพักให้ตัวเองหรือให้เวลาตัวเองได้ผ่อนคลาย เพราะฉะนั้นลองพักสักแปป ได้ทำอะไรอย่างอื่นนอกเหนือจากงานบ้าง อาจจะทำให้รู้สึกดีขึ้น

 

ทำ To-do list ให้สั้นลง

ส่วนใหญ่แล้วคนที่บ้างานหรือทำงานหนัก จะมี To-do list เยอะแยะไปหมด และไม่ได้ยืดหยุ่นให้ตัวเองได้พักขนาดนั้น เพราะฉะนั้นลองตัดทอนสิ่งที่ตัวเองต้องทำต่อวันหลัง เพื่อบาลานซ์เวลางานกับเวลาส่วนตัวให้เหมาะสม

 

ระบุปัจจัยความเครียดของตัวเอง

รู้ตัวเองว่าอะไรที่เป็นสิ่งที่ทำให้เราเครียดหรือจิตตก แล้วหลีกเลี่ยงหรือหาวิธีรับมือกับมัน หากเราสามารถระบุปัญหาได้ การที่จะหาวิธีแก้ไข ก็จะง่ายขึ้นเช่นกัน

 

อยู่กับปัจจุบัน

หลายครั้งที่ความรู้สึกจิตตก หรือใจพัง มักจะมาจากการที่เรายึดติดกับอดีตหรือสิ่งที่เคยทำผิดพลาด จนลืมมองว่าปัจจุบันคือเวลาที่เราสามารถแก้ไขหรือพัฒนาตัวเองได้ดีที่สุด เพราะฉะนั้นหากเราเคยมีสิ่งที่ผิดพลาด ให้นำมาเป็นจุดปรับปรุง และอยู่กับปัจจุบันให้มากขึ้นก็จะทำให้สมองเราหนักน้อยลง

 

ค่อย ๆ จัดการไปทีละเรื่อง

อย่าเอาปัญหาทุกอย่างมาคิดพร้อม ๆ กันในเวลาเดียวกัน บอกเลยว่าต้องปวดหัวมากแน่ ๆ ให้ค่อย ๆ คิดและแก้ไขปัญหาไปทีละอย่าง เพื่อที่เราจะได้จัดการตัวเองและความคิดของตัวเองได้อย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น ไม่เครียดจนเกินไป

 

ขอความช่วยเหลือจากคนอื่น

อย่าคิดว่าเราอยู่คนเดียว มันจะต้องมีบางคนที่สามารถให้ความช่วยเหลือเราได้ เพราะฉะนั้นถ้าหากไม่สามารถรับมือได้ ให้ลองคิดที่จะขอคำปรึกษาหรือความช่วยเหลือจากคนรอบข้างและคนที่ไว้ใจได้ ก็จะทำให้เราไม่เครียดมากจนเกินไป อีกทั้งยังมีที่ระบายอารมณ์อีกด้วย

 

 

สุขภาพจิตและอารมณ์ของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ อย่ามองข้ามไม่ว่าจะกับเรื่องของการทำงานหรือชีวิตส่วนตัว หมั่นทำให้สุขภาพจิตของตัวเองมั่นคงอยู่เสมอ ทุกปัญหาในชีวิตก็จะผ่านไปได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน

 

อ้างอิง : https://blog.manahwellness.com/dealing-with-an-emotional-breakdown-at-work/

Author

  • รวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการพัฒนานอกกรอบของคนทำงาน

Related   Articles

Laura Vanderkam
ไม่มีคำว่า “ไม่มีเวลา” อีกต่อไปถ้าคุณมี Mindset แบบนี้ โดย Laura Vanderkam นักเขียนชื่อดังด้านการจัดการเวลา
สรุปวิธีคิดที่จะทำให้คุณ “มีเวลา” สำหรับสิ่งสำคัญในชีวิต โดยลอรา แวนเดอร์แคม (Laura Vanderkam) นักเขียนชื่อดังด้านการจัดการเวลา ผู้บรรยาย TED Talk ที่มียอดวิวหลายล้าน...
Vacation Blues
10 เคล็ดลับ "Bounce Back" สลัดอาการ "Vacation Blues" ให้หายเป็นปลิดทิ้ง!
อาการ “Vacation Blues” หรือความเศร้าหลังไปเที่ยวหยุดยาว เป็นอาการปกติที่เล่นงานคนทำงานอย่างหนักอึ้ง ซึ่งเกิดขึ้นกับคนทำงานหลายคนโดยเฉพาะช่วงหยุดยาว อย่างไรก็ตามการจมกับความเศร้าหลังเที่ยวไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก...
Harvard Business Review
ผลสำรวจพบเทรนด์ใหม่คนทำงาน เลือกใช้ AI ดูแลจิตใจแซงการทำงาน โดย Harvard Business Review
งานวิจัยจาก Harvard Business Review เพิ่งออกมา มีผลสำรวจพบว่าคนทำงานเปลี่ยนการใช้ AI จากเครื่องมือทำงาน มาเป็น “เพื่อนคู่ใจ” แทน สิ่งที่เปลี่ยนไปในปี...