Soft Skills ที่องค์กรควรมองหาจากพนักงานใหม่

Soft Skill
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา องค์กรให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะทางเทคโนโลยีมากขึ้น แต่ทักษะ Soft Skill กลับมีความสำคัญสูงขึ้น เนื่องจากงานหลายอย่างที่ต้องใช้การสื่อสารและความคิดสร้างสรรค์ไม่สามารถถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีได้ ในอนาคต งานที่ใช้ Soft Skill จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างมากในตลาดแรงงาน

หลายปีที่ผ่านมา ผู้บริหารและพนักงานส่วนใหญ่เทความสนใจไปลงทุนในการพัฒนา Hard Skill โดยเฉพาะทักษะทางด้านเทคโนโลยีและการทำ Automation เพราะเชื่อว่า ระบบต่างๆเหล่านี้ทำงานได้แม่นยำแน่นอน และลดปัญหากวนใจได้มากกว่าการทำงานของมนุษย์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความผิดพลาด ทำให้การพัฒนาคนและพัฒนาตนเองในด้าน Soft Skills ลดความสำคัญลง จากเดิมที่เคยลงคอร์สพัฒนาด้านการสื่อสาร ภาวะผู้นำ หรือความคิดสร้างสรรค์ ก็กลับเปลี่ยนไปเรียนรู้เทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นทักษะในการใช้เครื่องมือการตลาดออนไลน์ การเขียนโค้ดและโปรแกรม หรือการทำงานโดยใช้ซอร์ฟแวร์ต่างๆ และเมื่อบริษัทลงทุนในเทคโนโลยีเหล่านี้เพิ่มเติม ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพัฒนาพนักงานอีกต่อไป

แต่หากพิจารณาให้ลึกลงไป ในเมื่อเทคโนโลยีกำลังจะเข้ามาแทนที่การทำงานที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์และคณิตศาสตร์แล้ว คุณค่าที่แท้จริงของมนุษย์จึงอยู่ที่ Soft Skill ซึ่งถ้าดูเฉพาะงานที่หุ่นยนต์ไม่สามารถแทนที่คนได้นั้น ส่วนใหญ่เป็นงานที่ต้องใช้ Soft Skills ทั้งนั้น แต่งานที่ใช้ Soft Skill มากๆ เหล่านี้ เช่น งานบริการ หรืองานประสานงาน ในสังคมไทยกลับได้รับการให้คุณค่าและค่าตอบแทนที่ต่ำกว่างานที่หุ่นยนต์มาแทนที่ได้ด้วยซ้ำ ดังนั้น องค์กรควรพิจารณาโอกาสที่จะพัฒนาบทบาทงานและค่างานที่เพิ่มขึ้น สำหรับงานที่ใช้ทั้ง Hard Skill และ Soft Skill ควบคู่กันไป และไม่สามารถขาดอย่างใดอย่างหนึ่งได้ การทำงานโดยใช้เทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว จะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ถ้าคนทำงานไม่เข้าใจความต้องการของลูกค้าที่แท้จริงและขาดศิลปะในการสื่อสารและสร้างสรรค์ต่อยอด

คุณค่าของ Soft Skills ในตลาดแรงงาน

Accenture Strategy เคยพูดถึงเรื่องนี้ไว้ในรายงานเรื่อง Harnessing Revolution: Creating the Future Workforce ที่บอกว่า การที่องค์กรช่วยอัพสกิลทางด้าน Soft Skill ให้กับพนักงานจะช่วยลดอัตราการสูญเสียงานให้กับ automation ในขณะที่ Deloitte ได้คาดการณ์ไว้ว่าในปี 2030 อาชีพที่ใช้ Soft Skill เป็นหลัก จะมีสัดส่วนถึง 2 ใน 3 ของงานทั้งหมดในตลาด และการที่องค์กรจ้างพนักงานที่มี Soft Skill เข้ามาทำงานยังจะช่วยเพิ่มรายรับขององค์กรได้มากกว่า 90,000 เหรียญสหรัฐอีกด้วย

ทักษะ Soft Skills ที่สำคัญในยุคปัจจุบัน

  • Curiosity & Creativity หุ่นยนต์ หรือเทคโนโลยี เป็นหนึ่งในความคิดสร้างสรรค์ของคนทำงาน ดังนั้น โลกการทำงานจะพัฒนาต่อได้ต้องมีคนที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ และไอเดียใหม่ๆ ที่เกิดจากความสงสัยใคร่รู้เกี่ยวกับองค์กร ความเปลี่ยนแปลงของโลก และวิธีการทำงาน ซึ่งต้องใช้สัญชาตญาณที่มากกว่าการคำนวณของเครื่องจักร สิ่งที่พนักงานใหม่ควรแสดงออกในช่วงแรก เพื่อเพิ่มโอกาสอยู่รอดและประสบความสำเร็จท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนต่างๆ คือควาอยากรู้อยากเห็นในเรื่องขององค์กร เพื่อนร่วมงาน ลูกค้าที่ได้รับมอบหมายให้ดูแล และวิธีการทำงานใหม่ๆ และแสดงให้เห็นถึงความคิดที่แตกต่างอย่างสร้างสรรค์ คิดต่อยอดในแผนงานหรือกลยุทธ์เดิมที่มีอยู่เสมอ

  • Emotional intelligence ในยุคที่ต้องทำงานที่บ้าน ทำงานกับคนต่างทีมบนภารกิจพิเศษ ต้องทำงานกับทีมใหม่ๆ จากการควบรวมกิจการ ทำงานกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อหา New S-Curve ให้กับธุรกิจ และเจอแต่ความไม่แน่นอนของธุรกิจ การมีความฉลาดทางอารมณ์และวุฒิภาวะกลายเป็นสิ่งจำเป็นมากในการอยู่ร่วมกันแบบสร้างสรรค์ และนี่คือหัวใจสำคัญที่ทำให้พนักงานต่างจากหุ่นยนต์ ในฐานะพนักงานใหม่ ทักษะนี้จำเป็นมากเพื่อที่จะให้ได้ข้อมูลและความร่วมมือมากพอที่จะทำให้ผ่านช่วงทดลองงานไปได้อย่างสวยงามและสามารถเดินหน้าต่อได้อย่างเต็มศักยภาพด้วยการสนับสนุนจากคนรอบข้างที่ต้องร่วมงานกัน

  • Initiative & Creative Risk-Taking ทักษะในการลงมือทำและเสี่ยงในระดับที่พอดี ปรับตัวและปรับเปลี่ยน เพื่อสร้าง ผลลัพธ์ที่จับต้องได้ (Tangible Impact) ให้กับธุรกิจ โดยเฉพาะในช่วงที่ต่างคนต่างทำงานในต่างสถานที่กัน การส่งมอบผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอัน วัดผลได้ จะทำให้เกิดความเชื่อใจและนำไปสู่ความสำเร็จในสายอาชีพ ในฐานะพนักงานใหม่ ต้องแสดงให้เห็นว่ากำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับองค์กร มากกว่าแค่การทำงานตามคำสั่งเดิมๆ และแผนงานเดิมๆที่วางไว้โดยไม่มีอะไรใหม่ที่เพิ่มคุณค่าในงาน

การพัฒนาในสภาพแวดล้อม Hybrid

การจะพัฒนา Soft Skill ในสภาพแวดล้อมการทำงานแบบ Hybrid นั้น ต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ่ง (Empathy) และการออกแบบการเรียนรู้สำหรับแต่ละบุคคลแบบขั้นสูง (Hyper Personalization) เพื่อตอบโจทย์การเรียนรู้ที่ไหน เมื่อไหร่ เรื่องใด ก็ได้ที่จะทำให้พนักงานหนึ่งคนประสบความสำเร็จในการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัวไปพร้อมๆกัน นอกจากนี้ การพัฒนา Soft Skill ยังถือเป็นงานที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน (Equal Responsibility) ระหว่างองค์กรและพนักงานเพราะองค์กรไม่สามารถรับผิดชอบกับอนาคตของพนักงานได้ทุกคน และพนักงานเองก็ไม่สามารถพัฒนาตัวเองโดยไม่สนใจโจทย์ขององค์กรได้เช่นกัน ดังนั้น ในฐานะนักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ต้องทำงานร่วมกับหลายฝ่ายเพื่อให้องค์กรสนับสนุนและเปิดโอกาสให้พนักงาน fail fast, learn faster ผ่านนโยบายและวิธีบริหารบุคลากรในระดับองค์กรและระดับทีมด้วยเช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก : Khon At Work

ตัวอย่างจากองค์กรดัง

  1. Google: Google มุ่งเน้นการพัฒนา Soft Skill ของพนักงานผ่านโปรแกรม “g2g” (Googler-to-Googler) ที่ส่งเสริมการเรียนรู้และการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในหมู่พนักงาน เพื่อสนับสนุนให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ
  2. IBM: IBM ได้ตระหนักถึงความสำคัญของ Emotional Intelligence และได้จัดฝึกอบรมเพื่อช่วยให้พนักงานพัฒนาทักษะนี้ โดยการเน้นการทำงานร่วมกันในทีมข้ามฟังก์ชันและการปรับตัวต่อสถานการณ์ต่าง ๆ
  3. Salesforce: Salesforce ใช้การฝึกอบรมในด้าน Initiative & Creative Risk-Taking เพื่อสนับสนุนพนักงานให้กล้าแสดงความคิดใหม่ ๆ และส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงในองค์กร โดยการสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนให้พนักงานสามารถทดลองและเรียนรู้จากความผิดพลาด
  4. Deloitte: Deloitte ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะ Soft Skill ผ่านการจัดโปรแกรมการฝึกอบรมที่เน้นการสื่อสารและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อเตรียมพนักงานสำหรับความท้าทายในการทำงานในอนาคต
  5. Accenture: Accenture มีแนวทางการพัฒนาทักษะ Soft Skill ในการช่วยลดอัตราการสูญเสียงานจาก Automation โดยเน้นการพัฒนาความสามารถในการสื่อสารและทำงานร่วมกัน

Author

  • รวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการพัฒนานอกกรอบของคนทำงาน

Related   Articles

Jeff Bezos
เลิกเป็นคนไม่กล้าตัดสินใจ ด้วยประตูสองบานของ Jeff Bezos เทคนิคการตัดสินใจที่ผู้บริหารใน Amazon ถูกสอนให้ใช้
1. เวลาตัดสินใจอะไรไม่ได้ อาจไม่ใช่เพราะว่าเราตัดสินใจได้ไม่ดี แต่เราหารู้ไม่ว่าเราไม่เคยแยกมากกว่าว่าการตัดสินใจไหนที่อนุญาตให้เรา ‘ตัดสินใจผิดพลาด’ ได้...
2025 ai
รวม 10 AI น่าใช้ประจำปี 2025 มีเอาไว้พนักงานออฟฟิศทำงานคล่องขึ้นแน่นอน
Work smarter, not harder ด้วย AI Tools เหล่านี้ จดเอาไว้! ฝึกใช้ ทำงานง่ายขึ้นแน่นอน 1. ChatGPT AI ChatBot ที่สามารถโต้ตอบและตอบคำถามได้อย่างเป็นธรรมชาติ...
mindset
10 Mindset สร้างความแตกต่าง สู่ความสำเร็จในที่ทำงานก่อนใคร
ในโลกที่แข่งขันสูงอย่างทุกวันนี้ ความรู้และความเชี่ยวชาญเพียงอย่างเดียวอาจไม่พาเราไปได้ไกลเท่าที่หวัง สิ่งที่แยกคนประสบความสำเร็จออกจากคนทั่วไปอย่างแท้จริงคือ...