รวิศ หาญอุตสาหะ จากมนุษย์เงินเดือน สู่ไอดอลของนักธุรกิจ

หลายคนรู้จัก คุณรวิศ หาญอุตสาหะในฐานะ “เจ้าพ่อคอนเทนต์” ที่เราสามารถรับฟัง-อ่าน-เสพได้ทุกวันแต่ตัวเค้าเองยังเป็นผู้บริหารแบรนด์ศรีจันทร์ที่สร้างปรากฎการณ์รีแบรนด์จนสำเร็จและพาแบรนด์โกอินเตอร์จนเป็นกรณีศึกษา ทั้งๆ ที่ไม่มีแบคกราวด์ด้านการตลาด และไม่เคยบริหารองค์กรเลยเพราะก่อนหน้านั้นก็เป็นพนักงานออฟฟิศมนุษย์เงินเดือนจากมนุษย์เงินเดือน…สู่นักธุรกิจที่สำเร็จ จากนักธุรกิจ…สู่นักบริหารชีวิตที่เป็นไอดอลของใครหลายคนเคสของคุณรวิศ หาญอุตสาหะ จึงน่าสนใจไม่น้อย…

ชีวิตไปต่อได้เพราะบริหารเวลาเป็น

 

อย่างที่เราน่าจะพอรู้กัน คุณรวิศทำหลายอย่างเอามากๆ ทั้งงานผลิตภัณฑ์ที่ศรีจันทร์ งานสื่อ Mission To The Moon งานอีเวนต์ขึ้นบรรยายยตามที่ต่างๆ เรื่องแพชชั่นส่วนตัวอย่างการวิ่งออกกำลังกาย ไหนจะต้องทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวให้ดีเยี่ยมอีก แต่เรายังเห็นคุณรวิศไปสุดได้สำเร็จทุกทาง

 

เบื้องหลังที่ทำได้นี้ไม่ใช่ความลับ แต่เป็นแค่การ “บริหารเวลา” ให้ได้อย่างดีเยี่ยม มีวินัย วางแผนอย่างรอบคอบ และต้องเมคเซนส์ทำได้จริง Time Management เป็นสกิลที่เป็นระดับผู้บริหาร-เจ้าของธุรกิจ-หัวหน้างานแบบเราๆ จำเป็นต้องมี สกิลคือทักษะ ทักษะแปลว่าฝึกฝนกันได้ 

 

วิธีของคุณรวิศเริ่มจากการยอมรับความจริงก่อนว่า คนเรามีเวลาจำกัด ไม่สามารถทำทุกเรื่องด้วยตัวเองได้หรอก Mindset นี้ยังเป็นการเผื่อพื้นที่ว่างทางใจสำหรับความล้มเหลวเวลางานไม่เสร็จตามเดตไลน์ ทำให้ไม่เครียดหรือซ้ำเติมตัวเองเกินไป 

 

  • คุณรวิศจะเริ่มจากจัดเรียงลำดับความสำคัญ (Prioritize) อย่างเป็นระบบ 
  • ตัดทิ้งเรื่องไม่สำคัญทิ้งไป นำเรื่องไม่เร่งด่วนไปต่อคิวข้างหลัง 
  • ก่อน assign งานบางส่วนให้ลูกทีมดูแล 
  • และดึงตัวผู้เชี่ยวชาญมาช่วยในเรื่องที่เป็นจุดอ่อน 
  • ส่วนตัวเองไปโฟกัสที่จุดแข็งที่ทำได้ดี 

 

และพื้นฐานสำคัญที่สุดที่จะไม่ประนีประนอมคือ “คุณภาพการนอนหลับ” เพราะการจะทำสิ่งเหล่านี้ได้ สุขภาพร่างกายต้องพร้อมก่อน

 

ทั้งหมดนี้ฟังดูเหมือนง่าย แต่เอาเข้าจริงแล้วอาศัยการตัดสินใจที่เด็ดขาด การยอมรับข้อด้อยข้อจำกัดของตัวเอง การเฟ้นหาคนเก่งรอบตัว และต้องมีวินัยสุดๆ กับตัวเอง

 

อ่าน อ่าน อ่าน

 

“ผมตัดสินใจ Rebranding ศรีจันทร์จากการอ่านหนังสือ” คุณรวิศเคยพูดไว้

 

เขามีนิสัยเปิดกว้างการอ่านหนังสือเป็นทุนเดิมอยู่แล้วตั้งแต่เด็ก แต่มาอ่านจริงจังตอนโต โดยเฉพาะช่วงเปลี่ยนงานจากมนุษย์เงินเดือน มาสานต่อธุรกิจครอบครัว 

 

คุณรวิศจบด้านวิศวกรรม แต่ต้องดูแลด้าน Marketing เป็นหลัก ซึ่งตอนนั้นเขาไม่มีความรู้ด้านนี้เท่าไรเลย สิ่งเดียวที่ทำได้คือ อ่าน อ่าน อ่าน…อ่านมันเข้าไป โดยเฉพาะด้านการตลาด การโฆษณา บริหารธุรกิจ จิตวิทยา เรียกว่าทุกด้านที่ส่งเสริมกันและกัน

 

ความน่าสนใจคือ คุณรวิศมีนิสัย “จดบันทึก” สิ่งที่อ่าน เวลาเจอประโยคโดดๆ ตัวอย่างเด็ดๆ จะขีดเขียนลงบนหน้าหรือบันทึกเก็บไว้ ใครจะไปรู้ว่าสิ่งที่จดจะกลายมาเป็น asset ให้เขาหยิบใช้ต่อยอดในอนาคต

 

หนังสือ What I Wish I Knew When I Was 20 คือเล่มแรกที่สร้างแรงบันดาลใจให้เขากล้า Rebranding ศรีจันทร์ หนังสือกระตุ้น mindset ของการคิดค้นนวัตกรรม เปิดรับความเป็นไปได้ใหม่ๆ มองความผิดพลาดล้มเหลวเป็นขั้นบันไดสู่ความสำเร็จ เราจึงเห็นศรีจันทร์ transform สู่แบรนด์ยุคใหม่ในทุกเรื่องทั้งหน้าบ้าน-หลังบ้าน แทบไม่เหลือเค้าโครงแบรนด์เก่าแก่อายุหลายทศวรรษอีกเลย

 

เขายังชื่นชมหนังสือ Predatory Thinking ของ Dave Trott ที่เล่าเรื่องการโฆษณาและประวัติศาสตร์ด้วยภาษาที่เท่และเข้าใจง่าย ซึ่งคุณรวิศได้ปรับมาใช้กับการทำ Storytelling ในธุรกิจด้วย

 

พอมาทำพอตแคสท์ Mission To The Moon ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าการอ่านหนังสือกลายเป็นวัตถุชั้นเลิศในการนำย่อยและตกผลึกเล่าให้ผู้ฟังแบบเราอีกที สิ่งที่เขาเคยจดบันทึกไว้หลายอย่างก็ถูกนำมาประกอบร่าง เพื่อถ่ายทอดออกมาเป็นคอนเทนต์ที่น่าติดตาม จนขึ้นแท่นพอตแคส์อันดับต้นๆ ของประเทศ ก่อนขยายเป็นอาณาจักรสื่อ ขยายไปทุกช่องทางโซเชียล และแตกแบรนด์ย่อย เช่น 5 Minutes / Mission Daily Report / และล่าสุด New You

 

ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน จะเขียนได้ดี…ต้องอ่านมาเยอะ เมื่ออ่านเยอะถึงจุดหนึ่ง สกิลการเขียนก็อัพเกรดขึ้นตาม จนคุณรวิศสามารถออกหนังสือเป็นของตัวเองได้ เป็นช่องทางสร้างการรับรู้ตัวตน CEO Branding แบบเชิงลึก และทำหน้าที่เป็น “นามบัตร” ในตัวมันเองเวลามีนักธุรกิจอยากแกะความคิดทำความรู้จัก หนังสือสร้างความน่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ดีเยี่ยม จนเปิดประตูอีกบานสู่การเป็นวิทยากรแถวหน้าของประเทศ มีการจัดงานอีเวนท์ใหญ่ทุกปี เช่น Mission To The Moon Forum

 

ส่วนงานที่บริษัท เขาถึงกับออกแบบสวัสดิการที่ศรีจันทร์ โดยให้งบพนักงานไปซื้อหนังสือฟรี 1 เล่มทุกเดือน ส่งเสริมการอ่านและอ้พสกิลทางความคิดให้ทีมไปต่อได้

 

จาก Productivity geek สู่ชายที่ทำงานโดยใส่ใจด้านอื่นมากขึ้น

 

“ผมยอมรับว่าผมเคยคิดผิดไป” เรามักคิดว่าเราเป็น CEO แล้วจะขอโทษไม่ได้ การขอโทษเป็นสัญญาณของความอ่อนแอ แต่คุณรวิศไม่คิดเช่นนั้น เมื่อผิดต้องกล้ายอมรับ และยอมรับว่าแบบเปิดเผยตรงไปตรงมา เพราะไม่มีอะไรเพอเฟกต์ ตัวเขาเองก็ผิดได้

 

เขาเคยมีชุดความคิดว่า การที่พนักงานคนหนึ่งล้มเหลวกับชีวิตหรือการทำงาน ไร้สกิล บริหารเวลาไม่เป็น การเงินย่ำแย่ อารมณ์แปรปรวน เป็นเพราะปัญหาเชิงปัจเจกที่มาจากเจ้าตัวเอง 

 

แต่เมื่อเกิดโควิด-19 เขาเองได้ออกมาช่วยเหลือผู้คนจนได้ปะทะพบเจอกับโลกอีกสังคมหนึ่งที่เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียม การขาดโอกาสตั้งแต่เด็ก ทำให้เขายอมรับว่าตัวเองคิดผิด และมองเรื่องนี้ว่าเป็น “ปัญหาเชิงโครงสร้าง”

 

เป็นเรื่องไม่ง่ายนักที่ CEO จะออกมายอมรับผิด และนี่คือสิ่งที่คุณรวิศกล้าทำ

 

แนวคิดการทำงานแบบหัวสมัยใหม่

 

ในวัยเลข 4 แม้จะไม่ใช่คนรุ่นใหม่ซะทีเดียวในเชิงตัวเลขอายุ แต่คุณรวิศยังมีมุมมองการทำงานที่ถูกจริตคนรุ่นใหม่และโลกสมัยใหม่ไม่น้อย 

 

อย่างเช่น เขามองว่าทีม Marketing ควรวางแผนแต่พอเหมาะ ไม่ต้องเยอะมาก ไม่ต้องประดิษฐ์สไลด์พรีเซนท์ให้สวยเลิศอะไร แต่ควรออกไปรับฟังให้มาก ออกไปคุยกับลูกค้าตัวจริงให้เยอะดีกว่า เพราะนั่นคือ Insights ที่มีประโยชน์จริงๆ

 

ทำงานแบบ flexible & resilient เป็นแบรนด์แรกๆ ที่ work from home เต็มรูปแบบสมัยโควิดใหม่ๆ และปรับตัวไปตามสภาพการณ์โดยไม่ยึดติดความสำเร็จเดิมๆ

 

หรือการ attract & retain พนักงานเก่งๆ ด้วยการคิดนโยบายสวัสดิการเจ๋งๆ เช่น 

  • ลาคลอด 180 วัน 
  • ลาไปผ่าตัดแปลงเพศ 
  • ฟรีค่าฟิตเนสออกกำลังกาย 
  • ให้งบพนักงานไปซื้อหนังสือฟรี 1 เล่มทุกเดือน 

 

สวัสดิการเจ๋งๆ แบบนี้ยังไวรัลทำหน้าที่ PR ให้บริษัทไปในตัว

 

แนวคิดการใช้ชีวิต-การทำงานของ คุณรวิศ หาญอุตสาหะ มี core value ที่ค่อนข้างเรียบง่าย ไม่ว่าจะการบริหารเวลา การยอมรับผิด การเปิดกว้างสิ่งใหม่ๆ แต่เขาดันแท่งบาร์ขึ้นไปให้สุด ทำแบบลงลึกแอดวานซ์ และมีวินัยทำต่อเนื่องมากพอ (เช่น ลงพอตแคสต์ทุกวันติดต่อกันมา 4-5 ปีแล้ว)

 

นี่ก็เป็นสิ่งที่คนระดับหัวหน้างาน-ผู้บริหาร น่าจะเริ่มต้นทำได้ไม่ยาก…และเริ่มได้เดี๋ยวนี้เลย!

Author

  • รวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการพัฒนานอกกรอบของคนทำงาน

Related   Articles

Jeff Bezos
เลิกเป็นคนไม่กล้าตัดสินใจ ด้วยประตูสองบานของ Jeff Bezos เทคนิคการตัดสินใจที่ผู้บริหารใน Amazon ถูกสอนให้ใช้
1. เวลาตัดสินใจอะไรไม่ได้ อาจไม่ใช่เพราะว่าเราตัดสินใจได้ไม่ดี แต่เราหารู้ไม่ว่าเราไม่เคยแยกมากกว่าว่าการตัดสินใจไหนที่อนุญาตให้เรา ‘ตัดสินใจผิดพลาด’ ได้...
2025 ai
รวม 10 AI น่าใช้ประจำปี 2025 มีเอาไว้พนักงานออฟฟิศทำงานคล่องขึ้นแน่นอน
Work smarter, not harder ด้วย AI Tools เหล่านี้ จดเอาไว้! ฝึกใช้ ทำงานง่ายขึ้นแน่นอน 1. ChatGPT AI ChatBot ที่สามารถโต้ตอบและตอบคำถามได้อย่างเป็นธรรมชาติ...
mindset
10 Mindset สร้างความแตกต่าง สู่ความสำเร็จในที่ทำงานก่อนใคร
ในโลกที่แข่งขันสูงอย่างทุกวันนี้ ความรู้และความเชี่ยวชาญเพียงอย่างเดียวอาจไม่พาเราไปได้ไกลเท่าที่หวัง สิ่งที่แยกคนประสบความสำเร็จออกจากคนทั่วไปอย่างแท้จริงคือ...