วิธีคิดที่จะทำให้คุณเก่งขึ้นแบบก้าวกระโดดด้วย Mental Models โดย James Clear ผู้เขียนหนังสือ Atomic Habits

ในโลกที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและข้อมูลมากมาย ความสามารถในการคิดอย่างเป็นระบบและรอบด้านเป็นทักษะที่ช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น หนึ่งในแนวคิดที่สามารถช่วยพัฒนาแนวทางการคิดของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพคือ Mental Models หรือ “กรอบความคิด” ที่ช่วยให้เรามองโลกและแก้ปัญหาได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น

1. Mental Models คืออะไร?

Mental Models คือกรอบความคิดที่ช่วยให้เราเข้าใจและตีความสิ่งต่างๆ รอบตัว ผ่านมุมมองจากศาสตร์ที่แตกต่างกัน เช่น:

  • อุปสงค์-อุปทาน จากเศรษฐศาสตร์ ช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมของตลาด
  • Entropy จากฟิสิกส์ ช่วยให้เข้าใจแนวคิดเรื่องความไม่เป็นระเบียบและการเปลี่ยนแปลง

ยิ่งเรามีกรอบความคิดหลากหลาย เราจะสามารถมองเห็นปัญหาจากมุมมองที่กว้างขึ้น และสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น

2. ตัวอย่างจาก Richard Feynman: ใช้ Mental Models สร้างความแตกต่าง

Richard Feynman นักฟิสิกส์รางวัลโนเบล ใช้วิธีคิดที่แตกต่างในการแก้ปัญหาซับซ้อน เขาเคยกล่าวว่า “ผมไม่ได้ฉลาดกว่า แค่มีกรอบคิดหลากหลายกว่า” ซึ่งหมายความว่า การมีหลายวิธีคิดเปรียบเสมือนการมีเครื่องมือหลายแบบในการแก้ปัญหา ทำให้เราสามารถหาวิธีแก้ที่เหมาะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

3. อย่าจำกัดตัวเองแค่ “เครื่องมือเดียว”

หากเรามองทุกปัญหาผ่านกรอบความคิดเดียวกัน เราจะเจอกับ “ทางตัน” ได้ง่าย ดังนั้น ทุกครั้งที่เจอปัญหา ลองเปลี่ยนมุมมองโดยใช้ศาสตร์อื่น ๆ เช่น:

  • ศิลปะ เพื่อเข้าใจความคิดสร้างสรรค์
  • ชีววิทยา เพื่อเข้าใจระบบที่ซับซ้อน
  • เทคโนโลยี เพื่อหาโซลูชันที่ล้ำสมัย
  • ปรัชญา เพื่อพิจารณาความหมายและคุณค่า

4. มองปัญหาจากหลายมุม

ลองคิดดูว่า “ทำไมไก่ขันตอนเช้า?” คำตอบที่ได้จากศาสตร์ต่าง ๆ อาจแตกต่างกัน เช่น:

  • ชีววิทยา: นาฬิกาชีวิตของไก่
  • ประสาทวิทยา: สมองของไก่สั่งการให้มันขัน
  • สังคมวิทยา: ไก่ขันเพื่อประกาศอาณาเขต

ทุกมุมมองล้วนมีความจริงของตัวเอง แต่ไม่มีมุมใดที่อธิบายทุกอย่างได้ครบถ้วน ดังนั้น เราต้องฝึกฟังและมองหลายด้านเพื่อให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจน

5. สร้าง “Liquid Knowledge” – ความรู้ที่ลื่นไหล

เลิกมองความรู้เป็น “กล่องแยกกัน” เช่น ชีวะ ฟิสิกส์ การเงิน สุขภาพ แต่ให้เชื่อมโยงศาสตร์เหล่านี้เข้าด้วยกัน ตัวอย่างเช่น:

  • การออกแบบ UX/UI สามารถใช้จิตวิทยาและวิทยาศาสตร์พฤติกรรมเพื่อเข้าใจผู้ใช้งาน
  • นักธุรกิจสามารถใช้สถิติและเศรษฐศาสตร์เพื่อพยากรณ์แนวโน้มตลาด
  • แพทย์สามารถใช้แนวคิดของ AI เพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรค

6. เติมแว่นใหม่ ๆ ให้ตัวเองเสมอ

Mental Models เปรียบเสมือน “แว่น” หากคุณมีแค่แว่นเดียว คุณจะมองเห็นโลกแค่แบบเดียว แต่ถ้าคุณมีแว่นหลายแบบ คุณจะเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ได้รอบด้านขึ้น วิธีเติมแว่นใหม่ให้ตัวเองคือ:

  • อ่านหนังสือที่หลากหลาย
  • เรียนรู้ศาสตร์ใหม่ ๆ ทุกเดือน
  • สนทนากับคนจากสายงานที่แตกต่าง

7. เรียนรู้เฉพาะโมเดลที่สำคัญที่สุดก่อน

James Clear แนะนำว่ามี Mental Models ประมาณ 80-90 ตัว ที่สำคัญที่สุด เช่น:

  • เศรษฐศาสตร์: แรงจูงใจ (Incentives)
  • ฟิสิกส์: กฎของเอนโทรปี (Entropy)
  • จิตวิทยา: อคติทางความคิด (Cognitive Biases)

การเรียนรู้แก่นสำคัญของแต่ละศาสตร์ก่อน จะช่วยให้คุณใช้ความรู้นั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

8. ฝึก Deep Thinking

Deep Thinking หรือการคิดอย่างลึกซึ้ง เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เราเข้าใจปัญหาได้ดียิ่งขึ้น วิธีฝึกมีดังนี้:

  • เขียนบันทึก: เพื่อเรียบเรียงความคิดของตัวเอง
  • ตอบคำถามสำคัญ: ตั้งคำถามกับทุกสิ่งที่เรียนรู้
  • วิเคราะห์ปัญหาแบบ Feynman: อธิบายสิ่งที่เรียนรู้ด้วยภาษาง่าย ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าเข้าใจจริง

9. Never Stop Learning

ยิ่งเราขยายคลัง Mental Models มากเท่าไหร่ เราจะสามารถพัฒนาตัวเองได้แบบ “ไม่มีลิมิต” เพราะเราจะสามารถเข้าใจและแก้ปัญหาได้ดีขึ้นทุกวัน

สรุป

Mental Models คือเครื่องมือที่ช่วยให้เราคิดได้ลึกซึ้ง ซับซ้อน และแม่นยำมากขึ้น โดยฝึกให้เรามองโลกจากหลายมุมและเชื่อมโยงความรู้จากศาสตร์ที่แตกต่าง ยิ่งเราสะสมโมเดลเหล่านี้มากขึ้น เราจะสามารถพัฒนาตัวเองและก้าวกระโดดในสายงานและชีวิตส่วนตัวได้อย่างรวดเร็ว

เริ่มต้นวันนี้! เพิ่มกรอบความคิดใหม่ ๆ ให้ตัวเอง แล้วคุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตและการทำงาน 🚀

อ้างอิง

Author

  • รวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการพัฒนานอกกรอบของคนทำงาน

Related   Articles

ขี้เกียจ
ขี้เกียจยังไงให้ Productive กว่าเดิม เทคนิคสำหรับคนขี้เกียจแต่อยากประสบความสำเร็จจากช่อง Peter Productivity
เพราะความขี้เกียจไม่ใช่ข้อเสีย ถ้าเราใช้มันอย่างถูกต้อง วันนี้มีเนื้อหาจาก Video ของ Productivity Peter มาเล่าให้ฟัง สำหรับคนที่รู้สึกว่าขี้เกียจแต่ก็อยากทำนู่นนี่เต็มไปหมด...
Jeff Bezos
เลิกเป็นคนไม่กล้าตัดสินใจ ด้วยประตูสองบานของ Jeff Bezos เทคนิคการตัดสินใจที่ผู้บริหารใน Amazon ถูกสอนให้ใช้
1. เวลาตัดสินใจอะไรไม่ได้ อาจไม่ใช่เพราะว่าเราตัดสินใจได้ไม่ดี แต่เราหารู้ไม่ว่าเราไม่เคยแยกมากกว่าว่าการตัดสินใจไหนที่อนุญาตให้เรา ‘ตัดสินใจผิดพลาด’ ได้...
2025 ai
รวม 10 AI น่าใช้ประจำปี 2025 มีเอาไว้พนักงานออฟฟิศทำงานคล่องขึ้นแน่นอน
Work smarter, not harder ด้วย AI Tools เหล่านี้ จดเอาไว้! ฝึกใช้ ทำงานง่ายขึ้นแน่นอน 1. ChatGPT AI ChatBot ที่สามารถโต้ตอบและตอบคำถามได้อย่างเป็นธรรมชาติ...