จะทำอย่างไร? หากต้อง “ทำงานกับคนต่าง Generation” ที่คิดไม่เหมือนกัน

generation

Generation กับความคิดที่ไม่เหมือนกัน เป็นอย่างไร?

ความท้าทายของการทำงานร่วมกับคนที่ต่างอายุ ต่างช่วงวัย หลายครั้งไม่ใช่ความสามารถในการทำงานหรือประสบการณ์ที่มากกว่ากัน แต่เป็นเรื่องของมุมมองและแนวคิดเสียมากกว่า ถ้าแค่เทียบระหว่าง Gen Z กับ Gen Y ต้องบอกเลยว่าการใช้ชีวิตก็ไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง นั่นไม่แปลกที่ว่าทำไมคนทั้งสอง Generation นี้ ต้องปรับตัวเข้าหากันอย่างมาก

ใครคือ Gen Z?

Gen Z คือ กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี 1996 ถึงต้นปี 2000 ซึ่งปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาหรือเพิ่งเริ่มทำงาน ซึ่งเป็น gen ที่เติบโตมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย มีหลากหลายลักษณะเฉพาะที่น่าสนใจและไม่เหมือนกับ Gen อื่นๆ อย่างเช่น ความสามารถในการเรียนรู้และใช้เทคโนโลยีได้อย่างกว้างขวาง เชื่อมต่อกับโลกออนไลน์อยู่ตลอดเวลา และมีความเป็นตัวของตัวเองค่อนข้างสูง

ลักษณะการทำงานของ Gen Z ต่างกับ Generation อื่น ๆ อย่างไร ?

Gen Z ให้ความสำคัญมากที่สุดกับ Work-life balance และ Well-being

ไม่ใช่แค่เงินเดือนหรือผลตอบแทนเม็ดเงินที่ถูกใจ แต่ Gen Z มองภาพสวัสดิการและสิ่งที่ควรได้รับจากบริษัทมากกว่านั้น เพื่อที่จะดึงดูดและรักษาคนมีความสามารถที่อยู่ใน Gen Z บริษัทควรคำนึงถึงสวัสดิการเรื่องวันหยุด วันลาพักร้อน และมากไปกว่านั้นคือการคำนึงถึงการรักษาสภาพจิตใจของพนักงาน การเข้าใจเรื่องของสมดุลการใช้ชีวิต เพื่อที่จะได้สามารถเข้าถึงความต้องการของ Gen Z ในวัยทำงานได้มากยิ่งขึ้น

Gen Z คือนักตั้งคำถามและไม่ไว้วางใจอะไรง่ายๆ

ความระแวงและความไม่ไว้วางใจ เกิดจากการที่ Gen Z เกิดมาในยุคที่เข้าถึงข้อมูลได้อย่างมากมาย ในขณะเดียวกันก็มีโอกาสเจอข้อมูลผิดเพี้ยนได้เยอะขึ้นเช่นกัน เพราะเหตุนี้ Gen Z เลยไม่ใช่คนที่เชื่อคนได้ง่ายๆ แต่การที่จะทำให้ Gen Z เชื่อได้ ข้อมูลนั้นต้องมีเหตุและผลมารองรับเสมอ และต้องมีที่มาที่ไปที่น่าเชื่อถือ พวกเขาระวังที่จะถูกเอาเปรียบและระมัดระวังที่จะไม่ปล่อยให้ความรู้สึกแทรกแซงการทำงานของพวกเขา

Gen Z ต้องการรู้ว่าบริษัทคาดหวังอะไรในตัวพวกเขา 

ก่อนที่จะเริ่มทำงานหรือว่าตัดสินใจอะไรในที่ทำงาน Gen Z หลายคนต้องการที่จะทราบก่อนว่าวัตถุประสงค์หรือสิ่งที่จะทำลงไปนั้นคืออะไร และมีอะไรที่ที่ทำงานคาดหวังในตัวพวกเขา เพื่อเอามาประกอบการตัดสินใจในการกระทำของตัวเอง

Gen Z สนใจงานที่มีความยืดหยุ่น ได้อยู่ในบริษัทที่น่าเชื่อถือ

งานในบริษัทขนาดใหญ่และมีโอกาสที่จะได้ใช้เทคโนโลยีหรือเครื่องมือที่ล้ำสมัย เป็นงานที่ดึงดูด Gen Z ในยุคนี้ อีกทั้งการทำงานในแบบที่มีความยืดหยุ่นก็สามารถดึงดูด Gen Z ได้มากเช่นกัน

บุคลิกที่ต่างกันของแต่ละ Generation ส่งผลกระทบต่อการทำงานอย่างไร?

1. การสื่อสารที่ไม่ตรงกัน

วิธีการสื่อสารที่แตกต่างกันส่งผลให้แต่ละ Gen ต้องปรับตัวเข้าหากันมากยิ่งขึ้น เช่น Gen Z หลายคนมักจะชอบสื่อสารกันผ่านทางการแชท หรือการโทรมากกว่าการเจอตัวต่อตัว ในขณะที่ Gen Y บางคนก็อาจจะมองว่าการเจอกันตัวต่อตัวทำให้การสื่อสารเกิดขึ้นได้ง่ายกว่า เป็นต้น 

2. การทำงานเป็นทีม

Gen Z มีความเป็นตัวของตัวเองที่ค่อนข้างมาก มีความคิดที่โดดเด่นและชอบแสดงความคิดเห็น เป็นสิ่งที่ Gen Y และ Gen อื่นๆ ควรทำความเข้าใจ และริเริ่มการนำเสนอวิธีการปรับตัวเข้าหากันเพื่อที่จะได้ทำงานเป็นทีมออกมาได้ดียิ่งขึ้น

3. ความคาดหวังที่ต่างกัน

แต่ละ​ Gen มีความคาดหวังต่อองค์กรที่แตกต่างกัน Gen Z อาจจะคาดหวังความยืดหยุ่นและโอกาสในการพัฒนาตนเองมากกว่า ในขณะที่ Baby Boomers และ Gen Y จะเริ่มตามหาความมั่นคงในอาชีพมากยิ่งขึ้น

4. การเลือกที่จะให้ความสำคัญ

Gen Z ให้ความสำคัญกับความหมายและเป้าหมายในการทำงาน ขณะที่ Gen Y อาจให้ความสำคัญกับประสบการณ์และอายุในการทำงานมากกว่า

วิธีการปรับตัวให้ทุก Generation สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างยิ่งขึ้น

บริษัทต้องส่งเสริมให้พนักงานสามารถแสดงความคิดเห็นและมุมมองของตัวเองได้อย่างอิสระ ไม่ควรตีกรอบให้กับความคิดของใคร และส่งเสริมให้พนักงานทุกคนยอมรับในความแตกต่างของแต่ละคน

2. สื่อสารกันอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

ปรับวิธีการสื่อสารเพื่อทำให้แต่ละคน แต่ละ Gen สามารถเข้าใจกันได้มากยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่เราคาดหวังให้คนเข้าใจเราเท่านั้น แต่เราต้องพยายามทำความเข้าใจสิ่งที่คนอื่นๆ ต้องการสื่อสารด้วยเช่นกัน

3. ส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับพนักงาน

ไม่ว่า Generation ไหนก็ตาม ทุกคนควรเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพราะการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไม่มีขีดจำกัดไม่ว่ากับช่วงอายุ ช่วงวัยไหนก็ตาม เพราะฉะนั้นบริษัทควรเข้าใจถึงความต้องการในการเรียนรู้ตรงนี้ และจัดเตรียมเนื้อหาหรือคอร์สเรียนที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน เพื่อให้พนักงานทุกคน ทุกวัย สามารถเรียนรู้และพัฒนาตัวเองให้เท่าเทียมกันได้ตลอดเวลา

4. สร้างทีมที่มีความหลากหลาย

หัวหน้าควรสร้างทีมที่ประกอบด้วยสมาชิกจากหลากหลาย Gen เพื่อให้ได้มุมมองที่หลากหลายและสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างครอบคลุม 

5. พนักงานทุกคนควรปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง

ไม่ใช่แค่องค์กรที่ต้องพร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมและความต้องการของพนักงาน แต่พนักงานทุกคนก็ต้องพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง และเพิ่มความยืดหยุ่นในตัวเองให้มากขึ้นอีกด้วย ด้วยโลกสมัยที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความยืดหยุ่นในการทำงานถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากสำหรับทุก Gen

ความแตกต่างของบุคลิกภาพระหว่างแต่ละ Gen เป็นเรื่องปกติ แต่การเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้จะช่วยให้องค์กรและพนักงานสามารถสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เอื้อต่อการทำงานร่วมกันของพนักงานทุกคน และนำไปสู่ความสำเร็จขององค์กรในระยะยาวได้ดียิ่งขึ้น

อ้างอิง: 

https://firstup.io/blog/gen-z-in-the-workplace/ 

https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/6-techneques-to-approach-gen-z 

Author

  • รวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการพัฒนานอกกรอบของคนทำงาน

Related   Articles

Jeff Bezos
เลิกเป็นคนไม่กล้าตัดสินใจ ด้วยประตูสองบานของ Jeff Bezos เทคนิคการตัดสินใจที่ผู้บริหารใน Amazon ถูกสอนให้ใช้
1. เวลาตัดสินใจอะไรไม่ได้ อาจไม่ใช่เพราะว่าเราตัดสินใจได้ไม่ดี แต่เราหารู้ไม่ว่าเราไม่เคยแยกมากกว่าว่าการตัดสินใจไหนที่อนุญาตให้เรา ‘ตัดสินใจผิดพลาด’ ได้...
2025 ai
รวม 10 AI น่าใช้ประจำปี 2025 มีเอาไว้พนักงานออฟฟิศทำงานคล่องขึ้นแน่นอน
Work smarter, not harder ด้วย AI Tools เหล่านี้ จดเอาไว้! ฝึกใช้ ทำงานง่ายขึ้นแน่นอน 1. ChatGPT AI ChatBot ที่สามารถโต้ตอบและตอบคำถามได้อย่างเป็นธรรมชาติ...
mindset
10 Mindset สร้างความแตกต่าง สู่ความสำเร็จในที่ทำงานก่อนใคร
ในโลกที่แข่งขันสูงอย่างทุกวันนี้ ความรู้และความเชี่ยวชาญเพียงอย่างเดียวอาจไม่พาเราไปได้ไกลเท่าที่หวัง สิ่งที่แยกคนประสบความสำเร็จออกจากคนทั่วไปอย่างแท้จริงคือ...