นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มี “คนครบทุกเจเนอเรชั่น” มารวมอยู่ในที่ทำงาน
และภายในปี 2025 “Generation Z” จะเป็นกลุ่มคนทำงานที่มีจำนวนมากที่สุดในบรรดาทุกเจน HR จึงต้องเตรียมองค์กรให้พร้อมรับคนรุ่นใหม่ซึ่งมาพร้อมความคิดใหม่ๆ ที่เราคาดไม่ถึง
การจะรับมือคน Generation Z เราต้องรู้ก่อนว่าพวกเขาเป็นคนอย่างไร?
Who is Gen Z ?
Generation Z คือกลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี 1996-2010 ถึงปัจจุบันมีอายุระหว่าง 11-25 ปี ช่วงอายุที่มากที่สุดของ Generation Z พึ่งจะเริ่มเข้าทำงานเป็นครั้งแรกได้ไม่กี่ปี หรือที่เรียกว่ากลุ่ม “First Jobber”
Knowledge Gap
ในมุมมองของคนเจนก่อนหน้า อาจรู้สึกว่า Generation Z “โตกว่าวัย” เพราะเทคโนโลยีได้พาพวกเขาสู่โลกแห่งข้อมูลข่าวสาร พวกเขาเป็นคนยุคแรกในประวัติศาสตร์ที่เกิดมาก็มี smartphone ดีๆ ให้เล่นตั้งแต่แบเบาะแล้ว
เรื่องที่ Baby Boomers รู้และเข้าใจตอนเป็นผู้ใหญ่… Generation Z อาจรู้และเข้าใจตั้งแต่วัยรุ่น!
นั่นจึงทำให้ Generation Z มีความ “รอบรู้” หลายด้าน ประยุกต์ศาสตร์ต่างๆ เข้าหากัน (Connecting the Dots) มีความรู้แบบ T-shaped เป็นพื้นฐาน รู้ลึกเรื่องเดียว…แต่รู้กว้างหลายเรื่อง
ในฐานะ HR หรือหัวหน้า จะมองข้ามเรื่องนี้ไปไม่ได้เลย องค์ความรู้ที่คุณมี…Gen-Z ก็อาจมีเหมือนกัน แต่มาในเวอร์ชั่นที่ใหม่กว่า อัพเดทกว่า เกี่ยวข้องกับโลกปัจจุบันมากกว่า จะดีกว่าถ้าเราใช้ “ประสบการณ์” คอยชี้แนะพวกเค้าให้ต่อยอดยิ่งขึ้น
เวลาคุยกับพวกเค้าต้องเข้าหาด้วยเหตุผล วลี “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” ใช้ไม่ได้อีกต่อไป หรือ “ผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อน” Generation Z จะถามย้อนกลับ “ร้อนกี่องศา และ ทำไมต้องอาบน้ำร้อน…อากาศข้างนอกยังร้อนไม่พอเหรอครับ?”
Born in Crisis
Generation Z เติบโตมาพร้อมวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่รุนแรงและถี่มากที่สุดช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ตั้งแต่ต้มยำกุ้ง ปี 1997 / วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ปี 2008 / การตกต่ำของเศรษฐกิจไทยในรอบหลายปีนี้ / จนมาล่าสุดโควิด-19…ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พวกเขาพึ่งเรียนจบ (จบมาไม่ทันไรโดนหนักเลย!)
ตอนยังเด็กพวกเขาเห็นพ่อแม่สูญเสียความมั่งคั่ง พอตัวเองโตมาเรียนจบก็ถูกซ้ำเติมด้วยวิกฤติโควิด-19 ที่ตามมาด้วยวิกฤติเศรษฐกิจทั่วโลก กลุ่มนี้จึงมีความ Realistic สูงมาก ไม่โลกสวย มองโลกตามความเป็นจริง การวิเคราะห์ใดๆ จะต้องพิจารณาสภาพเหตุการณ์โลกควบคู่กันและมี “ข้อมูล” รองรับเสมอ
เรื่อง “เงิน” สำหรับ Generation Z เป็นเรื่องใหญ่ HR ต้องคุยให้เคลียร์เรื่องผลตอบแทน และ บอกให้ชัดเจนถึงโอกาสก้าวหน้าในองค์กร (Internal Mobility) เพราะ Gen-Z ต้องการความมั่นคงในองค์กรไม่ต่างจาก Gen X ที่เป็นรุ่นพ่อแม่
นอกจากด้านเศรษฐกิจ Generation Z ยังโตมาพร้อมปัญหาแห่งศตวรรษอย่างการก่อการร้าย ภาวะโลกร้อน ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ความเหลื่อมล้ำ วิกฤติทางการเมือง ปัญหาเหล่านี้บีบบังคับให้ Gen Z “ตั้งคำถาม” กับสิ่งเดิมๆ ที่เคยเป็นมา และมองหาหนทางที่จะ “สร้าง” อนาคตขึ้นมาใหม่ในแบบตนเอง หล่อหลอมให้มีจิตวิญญาณแบบผู้ประกอบการที่จะหานวัตกรรมใหม่ๆ ในการแก้ปัญหา
ถ้าผู้บริหารใจกว้างมากพอ ควรลองมอบหมายโปรเจ็คท์ที่เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้ Generation Z ในองค์กรเป็นคนนำทีม รู้หรือไม่ว่า…เบื้องหลังการจับมือระหว่าง KBank และ BLACKPINK เมื่อปลายปี 2019 มีทีมมันสมองเป็นกลุ่มเด็กรุ่นใหม่ Young Talents ของ KBank คอยคิดอยู่แทบทั้งหมด (ผู้บริหารเป็นแค่ที่ปรึกษาและคอยอนุมัติ)
Image Cr. bit.ly/3bkvDz1
Authenticity
Generation Z กล้าแสดงออก เปิดเผยความเป็นตัวเองสูงมาก โพสอะไรในโซเชียลมักดูสมจริงกว่าเจนอื่น รูปไม่ต้องเนี้ยบมาก หน้าไม่ต้องใสเว่อร์ก็ได้
ทัศนคตินี้ส่งผลมาถึงการทำงานโดยเฉพาะด้าน Marketing แบรนด์ต้องไม่มีภาพลักษณ์ดีเกินจริง (Too good to be true) เรื่องราวที่กินใจต้องบอกได้ว่ามาจากประสบการณ์จริงไม่ใช่ฟังเขามาอีกที พรีเซนเตอร์ต้องดูออกว่าอินกับสินค้าของแบรนด์นั้นจริงๆ
อาจออกนอกกรอบของบริษัทไปบ้าง แต่จุดแข็งคือ Gen-Z จะปฏิบัติแบบไม่ดูถูกความรู้ของลูกค้า ไม่ผิวเผิน รับฟังปัญหาลูกค้าจริงๆ เสนอสินค้าบริการเพื่ออยากแก้ปัญหาให้เค้าจริงๆ
Social Interaction
Philip Kotler ปรมาจารย์ด้านการตลาดกล่าวไว้ในหนังสือเล่มล่าสุดของเขา Marketing 5.0 ว่า แม้ Gen-Z จะโตมากับหน้าจอ smartphone แต่กลับเป็นกลุ่มคนที่โหยหา “ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม” (Social Interaction) สูงกว่าที่หลายคนคิด เทคโนโลยีเป็นแค่เครื่องมือที่เชื่อมพวกเขาให้มาเจอกันตัวเป็นๆ ง่ายขึ้นเท่านั้นเอง
HR จึงต้องออกแบบวัฒนธรรมองค์กรให้พนักงานมีส่วนร่วม (Employee Engagement) เช่นอาจทำ Standup Meeting ยืนล้อมวงก่อนเริ่มงานทุกเช้า ที่นอกจากจะอัพเดทเรื่องงานแล้ว ก็ให้แต่ละคน “บอกเล่า” เรื่องราวที่ตนไปเจอมา จะมีสาระ/ไม่มีสาระก็ได้ (แสดงออกความเป็นตัวเอง)
หรือหากเป็นวิกฤติช่วงโควิด-19 ที่ทุกคน Work From Home และประชุมทางไกล HR ก็สามารถออกมาตรการให้ทุกคน “เปิดกล้อง” คุยกันทุกครั้งแทนการปิดกล้องไม่เห็นหน้า
หรืออาจนัด Team Hangout ทุกๆ 2 อาทิตย์หรือเดือนละครั้ง ออกไปหาร้านอร่อยๆ ทานหรือทำกิจกรรมต่างๆ ให้รู้จักเพื่อนร่วมทีมในมิติอื่นๆ Generation Z จะมีความสุขในการทำงานและจงรักภักดีต่อองค์กรมากขึ้น
Visual rather than Text
Generation Z ชื่นชอบการใข้รูปภาพครีเอทีฟและภาพเคลื่อนไหวแทนตัวอักษร (ส่งผลมาถึงการส่งสติ๊กเกอร์ไลน์แทนคำพูด…ซึ่งผู้ใหญ่อาจไม่เข้าใจว่าสื่อถึงอะไร)
การสื่อสารภายในองค์กรที่ต้องการโน้มน้าวหรือขอความร่วมมือ Generation Z จะรับรู้และยอมทำตามกว่ามากถ้าเป็นรูปภาพแทนที่ตัวอักษรทื่อๆ เต็มหน้า A4
ส่งผลไปถึงการทำ Marketing ที่ถูกจริตกับ Video Content มากกว่าบทความยาวๆ (แม้จะย่อยมาแล้วก็ตาม) ผลวิจัยจาก GenHQ เผยว่ากลุ่มคน Generation Z ยังดู YouTube นานถึงวันละ 3 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย
Sustainability is Standard.
Generation Z มองว่าการช่วยเหลือสังคมและรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นมาตรฐานที่องค์กรต้องมีไปแล้ว CSR ต้องไม่ทำด้วยเหตุผลแฝงด้านภาษี Gen-Z จะวิเคราะห์อย่างหนักว่าบริษัทตั้งใจแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมหรือช่วยเหลือสังคมจริงๆ หรือไม่?
มองในมุมผู้บริโภค Generation Z ให้คุณค่ากับแบรนด์มากกว่าแค่ ‘ตัวสินค้า’ แต่มองไปถึง…
- ความเป็นธรรมในการใช้แรงงาน ค่าแรงเป็นธรรมไหม? มีการเลือกปฏิบัติระหว่างเพศไหม?
- การผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โรงงานใช้ระบบ Zero Waste รึเปล่า? อัตราการรีไซเคิลอยู่ที่เท่าไร?
- แม้แต่อุดมการณ์ทางการเมือง ก็เป็นสิ่งที่ลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการให้แบรนด์แสดงออกถึงจุดยืนในบางเรื่อง
ลองมาดู 2 ตัวอย่างจาก 2 เจนที่บอกถึงความแตกต่างด้านทัศนคติ เช่น ไปซื้อของแล้วทางซูเปอร์มาร์เก็ตมีนโยบายไม่แจกถุงพลาสติก
- Baby Boomers อาจมองว่าเอาเปรียบ ราคาสินค้าก็ไม่ลด ฉันจ่ายเงินซื้อของนะก็ต้องมีสิทธิ์ได้ถุงสิ นี่มันผลักภาระมาให้ผู้บริโภคนี่นา
- Generation Z มองว่าก็ปกตินี่นา การช่วยรักษ์โลกเป็นหน้าที่ของผู้บริโภคอย่างพวกเราเช่นกัน หลายคนถึงกับมองว่า เข้าซูเปอร์มาร์เก็ตซื้อของแล้วหิ้วถุงพลาสติกออกมาเป็นเรื่องที่ “เชย!”
เมื่อเราช่วยโลก โลกจะเป็นบ้านที่ดีให้เราต่อไป
เมื่อเราช่วยทุกคนได้มากขึ้น โอกาสและมูลค่าทางธุรกิจก็มากขึ้นตาม
Community
Engaging Brands แบรนด์ที่มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า มีการสร้าง Community ขึ้นมา คือสิ่งที่ Gen Z มองหา เขาจะรู้สึกถึงการมีตัวตนและพร้อมปกป้องแบรนด์
ซึ่งจะว่าไป…นี่เป็นเทรนด์ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว “ไม่ใช่แค่ Gen-Z แล้วที่คิดแบบนี้”
“น้าเน็ก” พิสูจน์เรื่องนี้ได้ชัดเจนมาก น่าเหลือเชื่อว่าคน Gen X แบบเขาพึ่งมาทำธุรกิจสื่อออนไลน์ได้เพียง 2-3 ปี แต่กลับประสบความสำเร็จอย่างสูง เขาเล่าว่า “หัวใจยุคนี้คือ ต้องสร้าง Community ให้ได้” เป็นกลุ่มคนที่มารวมกันและมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์อย่างแน่นแฟ้น ซึ่งธุรกิจของเขาที่มีอยู่เยอะครอบคลุมหลายกลุ่มเป้าหมาย ทุกช่องทางล้วนมี Community อันแข็งแกร่งเป็นของตัวเอง
Flexibility
Generation Z เชี่ยวชาญการใช้เทคโนโลยีมากที่สุด และพร้อมเรียนรู้ของใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่เป็นกลุ่มคนแรกๆ ที่เต้นโชว์ลง TikTok จนมาถึงการหาทุกช่องทางเพื่อถูกเชิญเข้า Clubhouse
และเป็นอีกเจนที่ถูกจริตการทำงานที่ยืดหยุ่นทั้งด้านเวลา สถานที่ สไตล์การทำงาน ซึ่งเป็นสภาวะที่เฟ้นความคิดสร้างสรรค์ออกมาได้ดีที่สุด
ผลสำรวจจาก Kronos ในหมู่ Generation Z กว่า 3,400 คนยังพบว่า กว่า 1/4 ยินดีอยู่กับบริษัทนานขึ้นและทำงานหนักขึ้น ถ้าบริษัทออกแบบตารางการทำงานที่ยืดหยุ่นให้พวกเขาได้
Google ให้พนักงานออกแบบตารางการทำงานที่เหมาะกับตนที่สุดด้วยตัวเอง และสร้างห้องนอนภายในออฟฟิศที่เรียกว่า “Nap Pods” ใครง่วงแวะงีบได้ก่อนลุยงานต่อ
องค์กรที่สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เปิดกว้างที่รับฟังเสียงทุกเสียง จะสามารถดึงศักยภาพของ Gen-Z ออกมาได้มากที่สุด
ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า พลังคลื่นลูกใหม่อย่าง Generation Z จะเข้าสู่ตลาดแรงงานเต็มตัวพร้อมเฉิดฉายพลังความคิดคนรุ่นใหม่ ท้ายที่สุด HR ต้องเรียนรู้และคอยเปิดใจ “รับฟัง” พวกเขาอยู่ตลอดเวลา
องค์กรขับเคลื่อนด้วยคน ใครดึงศักยภาพของ Gen-Z (ที่มีจำนวนมากที่สุดและสดใหม่ที่สุด) ออกมาได้เยอะที่สุด คือผู้ชี้ชะตาองค์กรแห่งอนาคต
.
.
ลองให้ Generation Z มาทำ “แบบประเมินอาชีพ” ได้ฟรีๆ จาก CareerVisa เพื่อเช็คให้ชัวร์ก่อนว่านี่คืออาชีพที่ใช่ ที่เหมาะสมกับเราหรือไม่ >>> https://www.careervisaassessment.com/five-shades-assessment-th/
อ้างอิง
- หนังสือ Marketing 5.0 โดย Philip Kotler
- https://www.forbes.com/sites/ashleystahl/2019/09/26/how-to-manage-generation-z
- https://www.pageexecutive.com/advice/region/global/how-generation-z-redefining-role-hr-leader
- https://www.hrtechnologist.com/amp/articles/culture/4-expert-insights-managing
- https://www.bamboohr.com/blog/how-to-manage-generation-z/