เป็น Introvert ไม่ชอบเข้าสังคมและความวุ่นวาย ควรทำงานอะไร?

Introvert
บนโลกนี้มีคนหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นคนที่ชอบเข้าสังคมแบบสุด ๆ อย่าง Extrovert คนที่ชอบเข้าสังคมบ้างในบางเวลา บางเวลาก็ชอบอยู่คนเดียว อย่าง Ambivert หรือจะเป็นคนที่ไม่ชอบเข้าสังคมเลยอย่าง Introvert หลาย ๆ คนก็มีความชอบในการทำงานที่แตกต่างกัน แต่วันนี้เรามาดูอาชีพที่เหมาะสมกับคน Introvert กันดีกว่า คนเงียบ ๆ ไม่ชอบเข้าสังคมแบบนี้ จะเหมาะกับอาชีพแบบไหนกันบ้างนะ?

หลายครั้งที่การทำงานหลาย ๆ ที่ต้องทำงานแบบทีม มีความวุ่นวายของการติดต่อประสานงานกับคนหลาย ๆ คน ซึ่งอาชีพหรือการทำงานรูปแบบนี้มักจะเหมาะกับคนที่ชอบเข้าสังคม ไม่ชอบอยู่คนเดียว หรือชอบการพูดคุย แล้วถ้าเราพูดถึงคน “อินโทรเวิร์ต” หรือคนที่ไม่ค่อยชอบการเข้าสังคมสักเท่าไรล่ะ เราจะนึกถึงอาชีพแบบไหน

Introvert หลายคน ไม่ชอบที่จะพูดคุยกับใคร หรือกลัวที่จะพูดต่อหน้าคนเยอะ ๆ เพราะฉะนั้นก็มักจะไม่ชอบทำงานที่ต้องประสานงานหรือมีการพรีเซนต์บ่อย ๆ อย่างเช่น Sales เป็นต้น อย่างไรก็ตาม มีหลากหลายงานที่ต้องใช้ทักษะการสังคม ซึ่งก็ทำให้ Introvert หลายคน ฝืนหรือไม่เป็นตัวเองอยู่บ่อยครั้ง

เพราะฉะนั้นวันนี้ CareerVisa จะมานำเสนออาชีพที่น่าจะเหมาะสมกับ “อินโทรเวิร์ต” หรือคนที่ไม่ชอบเข้าสังคม ให้ได้ลองศึกษากัน เผื่อว่าเราจะเจองานที่เข้ากับตัวเรา และทำให้มีความสุขกับการทำงานได้มากขึ้น

[ 7 อาชีพ ที่เหมาะกับสาย Introvert “อินโทรเวิร์ต” หรือคนไม่ชอบเข้าสังคม ]

  1. Accountant – นักบัญชี

ถ้าคุณรู้ตัวว่าเรียนจบสายบัญชีมา หรือรู้ตัวว่าเป็นคนชอบการทำงานกับตัวเลข หรือการคำนวณ การเลือกที่จะเป็นนักบัญชีก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะไม่ใช่งานที่ต้องติดต่อกับผู้คนมากขนาดนั้น อาจจะมีบ้างแต่ก็ไม่ได้ใช้การติดต่อในชีวิตประจำวันเยอะแยะ ที่สำคัญอาชีพนี้ก็เป็นที่ต้องการในหลากหลายบริษัทเหมือนกัน เพราะฉะนั้นโอกาสการเติบโตหรือว่าจ้างงานก็ค่อนข้างที่จะมีมาก และได้รายได้ที่ดี

  1. Architect – สถาปนิก 

เป็นงานที่ใช้เวลากับการทำงานกับตัวเองสะส่วนใหญ่ หลังจากได้รับโจทย์ เวลาส่วนใหญ่ขอสถาปนิกคือการนั่งออกแบบ ใช้ความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองวางแผนหรือออกแบบ อาคารสำนักงาน บ้าน ให้ออกมาตามโจทย์ที่ลูกค้าให้มา เพราะฉะนั้นก็ค่อนข้างเป็นงานที่จะไม่ต้องสุงสิงกับใครพอสมควร

  1. Digital Marketer – นักการตลาดดิจิทัล

อาชีพนี้เป็นอาชีพที่สามารถทำงานจากบ้านได้อย่างสบาย ๆ เพราะหลัก ๆ จะใช้เวลาหน้าจอคอมและทำงานกับตัวเองสะส่วนใหญ่ ถึงแม้ว่าเป็นอาชีพยอดฮิตในหลากหลายเอเจนซี แต่ก็เป็นอาชีพที่ไม่ค่อยจะต้องสุงสิงกับใคร เพียงแต่ต้องมี Data และข้อมูลในการนำมาวิเคราะห์กับการวางแผนงานของตัวเองเพียงเท่านั้น

  1. Graphic Designer – นักออกแบบกราฟิก

คล้าย ๆ กับสถาปนิก ที่เมื่อเรารับโจทย์มาจากทีมที่เกี่ยวข้อง ก็สามารถใช้เวลาส่วนใหญ่กับการทำงานกับตัวเองหน้าคอมได้ รวมถึงนักออกแบบกราฟิกยังเป็นงานที่ค่อนข้างมีอัตราการว่าจ้างสูง หลายคนที่ชอบทำงานกับตัวเองและมีความสามารถพิเศษหรือเรียนจบด้านนี้มา จึงเลือกที่จะเป็น Graphic Designer กันอยู่มาก เพราะเป็นงานที่ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์และไม่ต้องสุงสิงกับใคร

  1. Software Engineer – นักพัฒนาซอฟต์แวร์

ค่อนข้างที่จะเป็นงานที่ใช้ความสามารถพิเศษหรือ Hard skill สูง แต่ก็เป็นงานที่วิศวกรหลายคนเลือกทำ โดยเฉพาะกับคนที่ค่อนข้างเป็น “อินโทรเวิร์ต” ที่สำคัญยังเป็นสายงานที่เป็นที่ต้องการในตลาดอย่างมาก และได้รายได้ค่อนข้างสูงอีกด้วย แต่ก็เป็นงานที่อยู่แต่หน้าคอมพิวเตอร์และไม่ต้องสุงสิงกับใครมากเช่นกัน

  1. Photographer – ช่างภาพ

อาจจะคิดว่าช่างภาพต้องออกสังคมเยอะ แต่ถึงแม้ว่าจะต้องออกไปพบปะผู้คน แต่ส่วนใหญ่ช่างภาพก็จะใช้เวลากับกล้อง หรือการถ่ายภาพที่ตัวเองสนใจ โดยไม่จำเป็นต้องคุยกับใครมากมายระหว่างทำงาน อย่างมากก็แค่ไกด์ให้นายแบบหรือนางแบบทำท่าตามที่ตัวเองต้องการ แต่ก็ไม่ต้องใช้พลังงานในการสื่อสารเยอะ จึงเป็นอาชีพที่ “อินโทรเวิร์ต” หลายคนมักจะสนใจ อีกทั้งการถ่ายรูปยังเป็นงานอดิเรกที่หลายคนให้ความสนใจ และได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย

  1. Executive Chef – เชฟ

หากคุณชื่นชอบในการทำอาหาร การเลือกที่จะเป็นเชฟทำงานในครัว หรือเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง ก็เป็นเรื่องที่น่าสนุก และยังได้นำสิ่งที่สนใจมาต่อยอดเป็นอาชีพอีกด้วย ซึ่งเชฟก็ไม่ใช่อาชีพที่ต้องคุยหรือสื่อสารกับใครมาก เป็นอาชีพที่เราจะได้ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เราสนใจอย่างเต็มที่นั่นก็คือการทำอาหาร และการออกแบบเมนู

ไม่ว่าเราจะเป็นคนแบบไหน มีบุคลิกอย่างไร ก็สามารถทำงานหรือเลือกอาชีพที่เหมาะสมกับตัวเองได้ทั้งนั้น ลองศึกษาดูว่าเราชอบทำอะไร มีความสนใจหรือความสามารถพิเศษในด้านไหน และเลือกงานที่เหมาะสมกับตัวเองกันนะ

อ้างอิง : https://mint.intuit.com/blog

Author

  • CareerVisa Team

    รวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการพัฒนานอกกรอบของคนทำงาน

Related   Articles

productivity

5 คำแนะนำจากปาก Elon Musk สู่ Ultra Productivity ใน 30 วัน

Productivity คือความสามารถในการทำงานหรือผลิตผลงานได้มากขึ้นในช่วงเวลาที่กำหนด โดยใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งมักวัดจากผลลัพธ์ที่ได้เมื่อเปรียบเทียบกับเวลาหรือความพยายามที่ใช้

หัวหน้าที่ดี

วิธีง่าย ๆ สู่การเป็น “หัวหน้าที่ดี” ที่ใคร ๆ ก็รัก

ไม่กลัวลูกน้องเก่งเกินหน้าเกินตา, ฟัง มากกว่า พูด, ชมเชยเมื่อทำดี และ ตำหนิแบบมีชั้นเชิง, ให้เครดิตกับทีม ไม่ใช่กับตัวเอง

นี่คือคุณสมบัติของ “หัวหน้าอันเป็นที่รักของลูกน้อง” ในฐานะหัวหน้างาน…เราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อเป็นหัวหน้าที่ดีขึ้นและลูกน้องรักมากขึ้น?

Presentation

Masterful Presentation : วิธีนำเสนอ สำคัญกว่า เนื้อหาที่พูด

1. Steve Jobs หยิบ MacBook Air ออกมาจากซองจดหมาย 2. หน้าสไลด์ที่มีแค่ 3 หัวข้อเท่านั้น 3. ซูชิคำเล็กๆ ที่ถูกจัดเรียงมาอย่างสวยงาม นี่คือตัวอย่างของ Masterful Presentation ศิลปะการนำเสนอขั้นเซียนที่สะกดใจผู้คน