สาเหตุไม่ใช่เพราะเรื่องเนื้องาน หรือเพื่อนร่วมทีม…แต่มาจากหัวหน้าผู้นำทีมต่างหาก!
ความน่ากระอักกระอ่วนใจคือ หัวหน้าบางคนดันไม่รู้ตัวว่าตัวเองไม่ดีพอหรือแสดงออกพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่เฮลตี้จนทำให้พนักงานลาออกดีกว่า
เรามาดูคาแรคเตอร์อุปนิสัยของเหล่าหัวหน้าที่ไม่ดี จนลูกน้องพากันลาออกยกทีมกัน
ทำตัวเป็น Messenger
หัวหน้าหลายคนลืมว่าตัวเองสวมหมวกตำแหน่ง Manager ที่ต้องบริหารคนและดึงศักยภาพของลูกน้องออกมา แต่ดันประพฤติตัวเสมือนเป็น “Messenger “คนส่งสาร” แค่รอรับคำสั่งมาจากเบื้องบน รับคำสั่งมาจากซีอีโอหรือผู้บริหารระดับสูงขึ้นไปอีกทีนึง ก่อนส่งต่อให้ลูกน้องเป็นคนลงมือทำ
ลักษณะที่พบเห็นคือ “โยนงาน” ให้ลูกน้อง โดย brief ผิวเผินว่า ผู้บริหารสั่งมาอีกทีนึง เราจะเห็นประโยคโต้ตอบทำนองว่า
- “นายสั่งมาอีกทีนึง”
- “ทำๆ ให้มันจบๆ ไป”
- “อย่าจี้ถามให้มากเลย ก้มหน้าทำไป”
อุปนิสัยนี้คืออัตราเร่งชั้นดีที่ทำให้ลูกน้อลาออก เหตุเพราะพวกเขาทำงานแบบไม่มี Why ไม่รู้ว่าทำไปทำไม พอถามไปก็ถูกสวนกลับไม่ได้รับคำตอบที่สมเหตุสมผล
ยึดตัวเองเป็นใหญ่
โดยทั่วไปแล้ว หัวหน้ามักมีอายุมากกว่าลูกน้องอยู่บ้างพอสมควร และมักใช้อายุตรงนี้เองมาตีความว่า “ประสบการณ์” เยอะกว่า
- “อาบน้ำร้อนมาก่อน”
- “พี่เคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว”
- “เอาเป็นว่า พี่รู้แล้วๆๆๆๆ” ก่อนรีบตัดบทจบ
ซึ่งในการทำงานยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะธุรกิจด้านเทคโนโลยี นับว่าไม่เป็นความจริงเลย เพราะมีสิ่งใหม่เกิดขึ้นทุกวัน-ทุกเดือน-ทุกปี
ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ การมาของ ChatGPT ที่ไม่ว่าจะหัวหน้ารุ่นเก๋า หรือ ลูกน้องรุ่นใหม่ ก็ต้องเริ่มต้นเรียนรู้ใช้งานจาก 0 ไม่ต่างกันนัก และถ้าลูกน้องรู้จักเทคนิคการ Prompt ที่ปลดล็อคศักยภาพของระบบออกมาได้ ก็อาจได้คำตอบที่มีตรรกะเหตุผลได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้้หัวหน้าผู้มากประสบการณ์เลยทีเดียว
หรือการที่ลูกน้องคนรุ่นใหม่ รู้จักใช้เครื่องมือ Data Tools ต่างๆ เช่น Mandala Analytics ในการทำ Social Listening จนค้นหาต้นตอคอนเทนต์ไวรัลได้สำเร็จ ซึ่งช่วยให้คิดกลยุทธ์ได้เฉียบคมพร้อมมีข้อมูลซัพพอร์ตได้ไม่แพ้ผู้บริหารรุ่นเก๋าเลยทีเดียว
ไม่ดี & ไม่เก่งจริง
ต้องยอมรับว่า คนทำงานในฐานะลูกน้องหลายคนต้องการเติบโตในเส้นทางอาชีพ อยากเก่งมากกว่านี้ อยากอัพสกิลมากกว่านี้ แต่เรียนรู้ด้วยตัวเองไม่เก่ง หลายคน “ต้องการ senior ในทีม” เช่น หัวหน้าที่ดีและเก่งจริงเพื่อช่วยสอนงาน
แต่ความจริงพบว่า ลูกน้องบางคนเก่งกว่าหัวหน้าซะอีก และไม่ใช่เก่งกว่าแค่เนื้องาน แต่เก่งกว่าทั้งในแง่ทักษะการบริหาร การวางแผนจัดการ ตรรกะความคิด พอเป็นเช่นนี้ คนที่อยู่เหนือเราไม่ได้เก่งกว่าจริง การลาออกเพื่อไปโตที่อื่นอย่างยั่งยืนก็กลายเป็นทางเลือกที่ดีขึ้นมา
ทัศนคติบางอย่าง
หัวหน้าไม่ดีที่ลูกน้องอยากลาออกให้จบๆ ไป มักมีชุดความคิด Mindset บางอย่างที่ชวนถกเถียงโต้แย้ง ทั้งนี้ อาจเพราะมาจากยุคสมัยเจเนอเรชั่นที่หัวหน้าเติบโตมา หรือแบคกราวด์การทำงานที่พบเจอมาส่วนตัวจน shape ให้เป็นคนมีความคิดลักษณะนี้
- อย่างเช่น หัวหน้าอาจมีทัศนคติว่า “การลาออกเป็นเรื่องของพนักงานส่วนบุคคล ไม่ได้เกี่ยวกับหัวหน้า”
พอมีชุดความคิดแบบนี้ กลายเป็นว่าเอาตัวเองออกจากสมการ อยู่เหนือปัญหาทั้งหลาย และโยนการลาออกให้เป็นปัญหาของตัวพนักงานรายบุคคลเอง
ทั้งหมดนี้คือคาแรคเตอร์เด่นชัดของเหล่าหัวหน้าไม่ดี…ที่ลูกน้องเลยพร้อมใจกันลาออก เป็นอีกประเด็นที่ซีอีโอหรือผู้บริหารระดับสูงต้องให้ความสำคัญ เพราะท้ายสุดแล้ว พนักงานคือคนที่ลงมือทำงานจริงๆ และองค์กรขับเคลื่อนได้ด้วยคนเหล่านี้ ถ้าคนเก่งลาออกไปกันหมด องค์กรย่อมกระทบในระยะยาวแน่นอน
อ้างอิง