กล่าวคือ จากการที่ตัวเองมีหน้าที่ความรับผิดชอบหลักในการหากลยุทธ์เทคแคร์คนอื่นในทีม เมื่อมีเรื่องทุกข์ร้อนใจ คนในทีมก็มักมานั่งระบายปรึกษาด้วย ซึ่ง HR ต้องรับเรื่องทุกข์ร้อนต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง และเมื่อพนักงานคนนั้นสบายใจแล้วก็กลับไปทำงานต่อ หรือกรณีถ้านโยบายที่เกิดจากความคิดของ HR ออกมาไม่เวิร์ค HR ก็มักเป็นคนแรกๆ ที่ถูกชี้นิ้วใส่
HR ทำหน้าที่อยู่ตรงกลาง แต่เจอสภาพ…ข้างบนก็กด-ข้างล่างก็ดัน แต่สุดท้ายแล้ว HR ก็เป็นคน…ที่ต้องการการเทคแคร์ใส่ใจ การยอมรับจากเพื่อนร่วมทีม ไม่ต่างจากคนอื่นที่ HR ดูแลนั่นแหล่ะ
คำถามคือ “HR ดูแลคนอื่น…แล้วใครล่ะดูแล HR?”
อันดับแรก HR ต้องมี Self-Care ที่สตรองให้ได้ก่อน ต้องทำความเข้าใจสถานะตัวเองก่อนว่า การจะไปดูแลคนอื่นได้ เราต้องดูแลตัวเองให้ได้ก่อน! เปรียบเปรยเหมือนกรณีฉุกเฉินบนเครื่องบิน ที่มีประกาศแจ้งว่า ให้คุณสวมหน้ากากออกซิเจนให้ตัวเองก่อน…ถึงค่อยไปสวมให้ผู้อื่นได้!
จากนั้น HR ควรมองว่า วิสัยทัศน์ที่ดีหรือผลงานของตัวเองที่มีประสิทธิภาพ จะย้อนกลับมาทำให้ HR ทำงานอย่างมีความสุขมากขึ้นตามไปด้วย! เช่น เรียกร้องให้องค์กรเปลี่ยนมาใช้ ระบบติดตามผู้สมัคร (Applicant Tracking System – ATS) ได้สำเร็จ ซึ่งช่วยในขั้นตอนหาพนักงาน ลด pipeline การทำงานที่ซ้ำซ้อนและเสียเวลา เรียกว่าเพิ่มโอกาสการเจอพนักงานที่ใช่ได้มาก
HR ควรออกแบบสภาพแวดล้อมการทำงานที่ได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่ายแบบ “วิน-วิน” ทั้งคู่ ทั้งฝั่ง HR และฝั่งทีม เช่น HR นำศาสตร์ Biophilic Design ที่นิยมทำกันในออฟฟิศสมัยใหม่ที่สิงคโปร์ มาประยุกต์ใช้ในออฟฟิศเมืองไทย ที่ระบุจำนวนพื้นที่สีเขียวหรือจุดที่มองเห็นสีเขียวของต้นไม้ธรรมชาติ ซึ่งผลวิจัยบอกว่าช่วยเพิ่ม Productivity 8% และ Well-being ของพนักงาน 13% นอกจากช่วยให้สมาชิกทีมทำงานได้ดีขึ้นแล้ว ตัว HR ยังมีคุณภาพชีวิตการทำงานที่ตามไปด้วย
นอกจากนี้ ทีมเองก็ต้องช่วยกันด้วย หัวหน้าทีมควรสร้างวัฒนธรรมการเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุข ความรู้สึกเป็น Owner ร่วมกัน ถ้าเกิดคนอื่นมีปัญหาการทำงาน แม้เราไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง ก็ควรยื่นมือเข้าไปช่วยเหลืออย่างเต็มใจ คัลเจอร์นี้จะทำให้ทุกคนรู้สึกว่าไม่มีใครถูกทอดทิ้ง พร้อมมีคนช่วยอยู่ห่างๆ ทำงานอย่างมีความสุขและอยู่กับองค์กรนานขึ้น
เรื่องที่จะมองข้ามไม่ได้เลยคือการ “บริหารความคาดหวัง” กับเพื่อนร่วมทีม เปิดอกคุยกันตรงไปตรงมาเลยว่า เรื่องไหนคือขั้นต่ำที่คุณเทคแคร์ให้ได้ และเรื่องไหนมีเพดานที่คุณจะไปต่อไม่ได้แล้ว
แปลกแต่จริง เมื่อเรามีความหวังที่สมเหตุสมผลและแฟร์กับทุกฝ่าย ความสุขเล็กๆ ก็มักเกิดขึ้นตามมาเอง..
อ้างอิง