4 วิธีรับมือ! หัวหน้าขี้เหวี่ยง บอสขี้วีน…แบบมืออาชีพ!

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า หัวหน้าขี้เหวี่ยง-บอสขี้วีน คือตัวการ Toxic environment บรรยากาศมาคุในที่ทำงาน ตัวพ่อแห่งความเครียด ความกดดัน มลภาวะทางเสียงที่กระทบแก้วหูจากการตวาดด่าลูกน้อง

นอกจากลูกน้องจะไม่แฮปปี้หรือไม่อยากมาทำงานจนอยากลาออก ยังฉุดรั้ง productivity & creativity ให้ดิ่งเหวตามไปด้วย เพราะโดนฟาดเข้าไปแบบนี้ ใครจะอยากทำงานต่อหรือสมองแล่นไหลไอเดียบรรเจิด

 

ประเด็นนี้จึงต้องรีบหาทางมือด่วนโดยด่วน หัวหน้าขี้เหวี่ยง บอสขี้วีน เจ้าของเจ้าอารมณ์…รับมือแบบมืออาชีพยังไงดี? ตามไปดูกัน


ป้องกันด้วยหลักฐาน

 

หัวหน้าก็เป็นคนๆ นึงที่อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ได้เหมือนกัน การที่หัวหน้าขี้วีนใส่ลูกน้อง ไม่ได้หมายความว่าลูกน้องผิดเสมอไป อย่าพึ่งด่วนตัดสิน แต่ให้นำ Fact ข้อเท็จจริงมาคุยกัน 

 

สิ่งหนึ่งที่ช่วยได้คือการเก็บรวบรวม “หลักฐาน” (Evidence) ที่ได้พูดคุยกันไว้ เช่น หัวหน้า assign งานมาใน email พร้อมกำหนดวันส่ง deadline ไว้ แต่กลับเหวี่ยงใส่ลูกน้องด้วยข้อกล่าวหาที่ส่งงาน delay ล่าช้า…ทั้งๆ ที่ลูกน้องส่งก่อนวัน deadline ด้วยซ้ำ 

 

หรือเป็นการ “เอาตัวเลขมาคุยกัน” เพราะตัวเลขไม่เคยโกหก และใช้ได้กับหลายสถานการณ์มากๆ เช่น วันส่งงาน ยอดขาย ยอดแชร์ อัตราการเติบโต งบประมาณที่ยิงโฆษณาไป  

 

หลักฐานจะเป็นตัวกำหนดทิศทางการพูดคุยต่อจากนี้เอง ถ้าลูกน้องผิดคือผิด และต้องรับผิดชอบ…แต่ถ้าลูกน้องถูก หัวหน้าควรขอโทษ

 

ค้นหา Triggers

 

คนเราทุกคนมี trigger อยู่ในตัวกันทุกคน เมื่อถูกกระตุ้นล่อลวงด้วย triggers นั้นๆ พฤติกรรมไม่พึงประสงค์บางอย่างก็จะเปิดเผยออกมาโดยอัตโนมัติ 

 

หัวหน้าเองก็มีเช่นกัน ลูกน้องที่ทำงานด้วยกันลองสังเกตค้นหา Triggers ไม่พึงประสงค์ของหัวหน้า และพยายามไม่ไปจุดติดไฟ 

 

ตัวอย่างเช่น หัวหน้าบางคนมี Triggers ต่อใครก็ตามที่มาสาย ไม่ตรงต่อเวลา แม้จะแค่ 1 นาทีก็ตาม เพราะตัวเองเป็นคนตรงเวลาชนิดเป๊ะๆ ถ้านัดประชุม 14:00 แล้วลูกน้องเข้าประชุม 14:01 ก็สามารถระเบิดลงอาละวาดได้ทันที

 

เราจะเห็นว่า Triggers แบบนี้ของหัวหน้าก้มีข้อดีเช่นกัน เพราะเวลาลูกน้องค้นหา Triggers แบบนี้ในตัวหัวหน้า ยังช่วยหล่อหลอมให้ตัวลูกน้องเป็น Talents ที่เพียบพร้อมขึ้น เป็นมืออาชีพมากขึ้น สามารถพัฒนาไปเป็นคนที่…

 

  • ตรงต่อเวลามากขึ้น ชนิดมาก่อนเวลาเสมอ 
  • ทำงานเรียบร้อย มีการจัดระเบียบความคิดดีเยี่ยม
  • ทำงานบนพื้นฐานของตัวเลขที่แม่นยำ 
  • หรือรู้จักมารยาทในที่ประชุม มีวุฒิภาวะสูงขึ้น


เปิดอกคุย

 

ปัญหาหลายอย่างแก้ได้ด้วยการเผชิญหน้าพูดคยกัน สำหรับเคสนี้ กลุ่มลูกน้องควรรวมตัวกันเพื่อให้มีพาวเวอร์มากพอ ก่อนเข้าไปพบและพูดคุยกับหัวหน้า ควรจัด session พิเศษเปิดอกคุยแบบเป็นเรื่องเป็นราว 

 

แม้หัวหน้าจะขี้วีนอารมณ์ร้อน แต่ก็ใช่ว่าจะไร้เหตุผลซะทีเดียว บางทีทำไปโดยไม่รู้ตัว ขั้นตอนนี้ลูกน้องจึงควรแจกแจง “สิ่งที่เกิดขึ้น” แบบละเอียด ก่อนชี้แจงเหตุผลที่โดนด่าแบบไม่ชอบธรรม พร้อมอธิบายถึงผลกระทบจากพฤติกรรมนี้ เช่น สร้างบรรยากาศ toxic ในที่ทำงาน และทำให้ turnover rate สูงโดยเฉพาะในกลุ่มพนักงานเข้าใหม่ นอกจากนี้ อาจเสนอ solution วิธีให้ฟีดแบคอื่นๆ ที่ประนีประนอมมากขึ้น ไม่ใช่การเหวี่ยงด่ารุนแรงแบบนี้

 

แม้ในระยะสั้น จะยังแก้อุปนิสัยนี้แบบอนรากถอนโคนไม่ได้ แต่อย่างน้อยกลุ่มลูกน้องได้ voice up ประเด็นนี้ขึ้นมาแล้ว เป็นการแสดงความกล้าหาญที่จะไม่ถูกกระทำฝ่ายเดียว และอย่างน้อยหัวหน้าต้องเก็บเอาไปพิจารณาตัวเองบ้างแหล่ะ

 

กระโดดหลบ

 

นิสัยบางคนไม่มีทางแก้ได้ในเร็ววัน ความเหวี่ยง & วีนของหัวหน้าก็เช่นกัน 

 

สิ่งที่ลูกน้องพอทำได้คือ หลีกเลี่ยงการปะทะซึ่งๆ หน้าให้ได้มากที่สุด เช่นในการประชุม อาจใช้วิธีประชุมออนไลน์เพื่อลดความเสียหาย หรือเรียกผู้บริหารระดับสูงท่านอื่นๆ เข้าร่วมด้วยเมื่อจำเป็น 

 

ในการทำงานชีวิตประจำวัน ให้เข้าหาโดยดูจังหวะตอนอารมณ์ดี เน้นสื่อสารผ่านข้อความใน Slack เรียกได้ว่าเป็นศาสตร์และศิลป์ในการ “เอาตัวรอด” เมื่อทำงานกับบอสขี้วีนเลยทีเดียว

 

และทั้งหมดนี้ก็คือ 4 วิธีรับมือกับหัวหน้าเจ้าอารมณ์ โดยยังคงรักษาความเป็นมืออาชีพได้ดีเยี่ยมอยู่ 

 

อ้างอิง

Author

  • CareerVisa Team

    รวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการพัฒนานอกกรอบของคนทำงาน

Related   Articles

ดูยังไงว่าคนสัมภาษณ์งานกำลังพูดไม่จริง

ผลวิจัยเผยว่า คนเรา “โกหก” ซึ่งๆ หน้าเวลาสัมภาษณ์งานมากกว่าที่คิด เพื่อปกปิดเรื่องที่ไม่อยากให้รู้ หรือให้รู้แค่บางส่วนเท่าที่อยากให้รู้พอ หลายคนทำไปเพราะสถานการณ์บังคับ คือพื้นฐานเป็นคนดีมีจรรยาบรรณ แต่จังหวะสำคัญนี้ก็ต้องขอซักหน่อย เพราะใครๆ ก็อยากได้งาน

คนแบบไหนที่ไม่น่าอยู่ในอำนาจได้นาน 

การไต่เต้าขึ้นมาเป็นหัวหน้ามีอำนาจในมือ vs. การรักษาตำแหน่งหัวหน้าและอำนาจในมือ เป็น 2 สิ่งที่ดูเผินๆ เหมือนกัน แต่ถ้าดูลึกๆ จะพบว่าต่างกันสิ้นเชิง