อันดับแรก Self-confident ต้องมาก่อน แม้จะมือใหม่ แต่หัวหน้าก็คือหัวหน้า ยังไงผู้บริหารระดับสูงต้องมองเห็นศักยภาพในตัวคุณถึงได้เลือกโปรโมตคุณให้เป็นหัวหน้า ให้ทำตัว “มั่นใจ” เสมอว่าคุณมีดีในตัวที่พร้อมนำลูกทีม
ผลวิจัยด้านจิตวิทยาเผยว่า แค่คนเราแสดงออกทำสีหน้าท่าทางมั่นอกมั่นใจ(แต่ภายในลังเล) ผ่านการพูดจาชัดถ้อยชัดคำ การเดิน และอิริยาบถทั้งหมด ก็สร้างความรู้สึกน่าคล้อยตาม ดูน่าเชื่อได้มากโขแล้ว
อย่างไรก็ตาม ต้องระวัง “อีโก้” ไม่ให้ขึ้นมาครอบงำตัวเอง เราทุกคนมีอีโก้ติดตัวกันทั้งนั้น อยู่ที่ว่าจะบริหารจัดการไม่ให้มากเกินไปได้รึเปล่า?
ที่ต้องไม่ลืมคือ วางจุดยืนสถานะตัวเองให้อยู่ “ตรงกลาง”
- เป็นที่ปรึกษาให้…ลูกทีม
- เป็นคู่คิดให้…ผู้บริหาร
และควรรักษา “ระยะห่าง” ไว้ระดับหนึ่งก่อนเสมอ เรายังใหม่ ประสบการณ์ยังน้อย ยังตามเหลี่ยมคนอื่นไม่ทัน
อีกสกิลนึงคือ ฝึกการมี “วาทศิลป์” ไว้ด้วย คำพูดนั้นสำคัญมากๆ ในใจคิดเหมือนกัน แต่ถ้าพูดต่างกัน ก็ให้ผลลัพธ์ไม่เหมือนกันแล้ว เช่น เวลาให้ฟีดแบคทีมกราฟิก
- “นี่ไม่ใช่สี CI ประจำแบรนด์ ลูกค้าก็พึ่งย้ำในที่ประชุมไปเอง แค่นี้จำไม่ได้แล้วเหรอ? ถ้าปรับแก้เสร็จแล้วอย่าลืมแจ้งมาด้วยล่ะ”
- VS. “จำได้ว่าสี CI ประจำแบรนด์ที่ลูกค้าแจ้งมาในที่ประชุมไม่ใช่แบบนี้นะ ลองเอาไปทบทวนแล้วฝากปรับแก้ทีนะ ขอบคุณมาก”
เป้าหมายเดียวกัน แต่พูดต่างกัน ย่อมให้ความรู้สึกต่างกัน และนำไปสู่ผลลัพธ์ต่างกัน โดยแบบหลังจะมีความ Empathy มากกว่า มีแนวโน้มทำงานมองหน้าได้แบบสนิทใจมากกว่า
ทีนี้ เรามักคิดว่าเมื่อเป็นหัวหน้าแล้วต้องออกคำสั่งรัวๆ แต่หัวหน้าที่ดีคือต้องมีทักษะการ “รับฟัง” เป็นเลิศ
ฟังความต้องการของลูกน้อง ฟังปัญหาพวกเขาให้มาก ฟังฟีดแบคคำวิจารณ์ให้เยอะ เพราะการเปิดใจรับฟังคือด่านแรกในการซื้อใจลูกทีม! เมื่อเรารับฟังมากพอ ในมุมของลูกน้องจะรู้สึกว่าคุณไม่ใช่แค่เจ้านาย แต่เป็นผู้นำทีมที่ไว้วางใจได้
สกิลหลักของหัวหน้าอาจไม่ใช่การเก่งงานแต่เป็น “เก่งคน” ให้เราฝึก People Skill รอบด้าน มองคนให้ออก อ่านคนให้เป็น เพื่อที่จะคาดหวังและ delegate งานสำคัญๆ ไปให้ได้ถูกคน
- บางคนเป็นสาย Creative มีไอเดียเจ๋งๆ มาเสิร์ฟตลอด แต่ทำงานไม่เป็นระบบระเบียบ
- บางคนเป็นสาย Data จ๋า รู้วิธีนำมาซึ่งข้อมูลรอบด้าน แต่ไม่เก่งในการประยุกต์ใช้ต่อยอด
อย่าลืมใส่ความเป็น Human ลงไป เช่น แม้จะเป็นเวลางาน แต่ทุกบทสนทนากับลูกทีมไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องงานเสมอไป เพราะลูกทีมก็คือคน บางทีเขามีปัญหาชีวิตส่วนตัวที่กระทบแรงใจในการทำงาน อย่างน้อยแม้ไม่รู้ทางออก แต่หัวหน้าแบบเราสามารถทำตัวเป็นที่รับฟังระบายความในใจได้นะ
แต่อย่าตายใจไป ในฐานะหัวหน้ามือใหม่ คุณต้องรีบอัพสกิล เฟ้นหาประสบการณ์ภาวะผู้นำเยอะๆ เรียนรู้เฟรมเวิร์คต่างๆ ที่มาช่วยยกระดับคุณภาพการเป็นหัวหน้าคนได้ เช่น TAPS Mode ที่แยกแยะความต้องการของลูกทีมได้เป็นอย่างดี
เป้าหมายของเรานอกจากคุณภาพงานที่ดีแล้ว ก็คงจะเป็นความสุขในการมาทำงาน สุดท้ายแล้วความสุขของลูกทีม ก็คือ ความสุขของหัวหน้าทีมแบบเราเช่นกัน..
ทุกคนต้องเคยผ่านประสบการณ์ “ครั้งแรก” กันทั้งนั้น ขอเป็นกำลังใจให้หัวหน้ามือใหม่ทุกคนให้ฝ่าฟันไปด้วยดี และนำพาทีมรุ่นใหม่ให้ก้าวหน้าโตระเบิด!
อ้างอิง
