กำลังหางานใหม่อยู่ใช่ไหม? ถ้าอยากได้งานไวขึ้น ลองทำตามสิ่งเหล่านี้ดู

ใครที่กำลังหางานใหม่อยู่ หยุดอ่านตรงนี้สักครู่ บอกเลยว่าการหางานใหม่น่าจะเป็นสิ่งที่ใครหลายคนกังวล เพราะกลัวว่าจะได้งานช้า หรือไม่ได้งานในสิ่งที่เราอยากทำ แต่อย่างไรก็ตามมาลองดูก่อนว่า การที่จะทำให้เราได้งานง่ายขึ้น เราควรทำอย่างไร

ไม่ว่าจะเป็นเด็กจบใหม่หรือคนที่มีประสบการณ์ทำงานมาอยู่บ้างแล้ว เมื่อต้องเริ่มต้นหางานใหม่ หรือเปลี่ยนงานก็คงเกิดความกังวลขึ้นกันทั้งนั้น ถึงแม้ว่าเราจะเก่งมาก ๆ ในมหาลัยฯ หรือว่าเป็นคนที่ทำงานเก่งมาก ๆ ในที่ทำงานเดิม แต่นั่นก็ไม่ใช่หลักประกันว่าจะทำให้เราได้งานไวกว่าคนอื่น หรือได้งานในสิ่งที่อยากทำ

 

แล้วแบบนี้เราควรทำอย่างไร ให้เราสามารถสมัครงานและได้รับ Offer จากงานหรือบริษัทที่เราอยากทำได้ไวยิ่งขึ้น…บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องยากถ้าหากเรามีความพยายาม

 

วันนี้ CareerVisa จะมาบอกทริคที่ให้ทุกคนได้ลองทำตามกัน หากอยากสมัครงานและได้งานที่ใหม่ไวยิ่งขึ้น

 

วิธีที่จะทำให้เราสามารถได้งานที่ใหม่ไวยิ่งขึ้น

 

ติดต่อกับคนที่อยู่ในแวดวงงานที่เราอยากทำ

ผู้จ้างงานหรือบริษัทหลายที่ มีความพอใจมากกว่าหากคนที่มาสมัครงานนั้นถูกแนะนำโดยคนทีน่าเชื่อถือหรือคนที่ทำงานในบริษัท เพราะถือว่าเป็นการกรองมาแล้วขั้นหนึ่งว่าผู้สมัครคนนี้เป็นที่น่าไว้วางใจ และมีความสามารถมากพอที่คนในบริษัทของตัวเองจะแนะนำเข้ามา เลยทำให้โอกาสที่จะสัมภาษณ์งานผ่านนั้นมีมากขึ้น

 

ติดต่อบริษัทโดยตรง

การที่เราจะเข้าหาบริษัทโดยตรงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะหลายครั้งการที่เราสนใจบริษัท ไม่ได้มาจากการเห็นโฆษณาแต่เป็นจากการที่เราสนใจในตัวบริษัทนั้นจริง ๆ เพราะฉะนั้นการทักหาบริษัทและแจ้งว่าเราสนใจในตัวบริษัทและตำแหน่งงาน พร้อมกับแนบ Resume และ Cover Letter ที่เขียนอย่างตั้งใจ จึงเป็นการแสดงความสนใจอย่างยิ่งที่อยากจะทำงานที่นี่

 

ให้ความสำคัญกับกิจกรรมหางานที่มหาวิทยาลัย

การที่มหาวิทยาลัยได้จัดการสร้าง Career Fair และนำเอาบริษัทต่าง ๆ เข้ามาหาคนทำงาน นั่นคือโอกาสที่ดีมาก ๆ ที่เด็กจบใหม่หลายคนจะได้แสดงถึงความสนใจในตัวบริษัท ทำความรู้จักตำแหน่งต่าง ๆ รวมถึงหาคอนเนกชันอย่างกว้างขวางมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นโอกาสที่ดีในการยื่นสมัครงานโดยตรงอีกด้วย

 

พึ่งพาบริษัทจัดหางาน หรือ Platform ที่ช่วยหางาน

เปิดตัวเองกับเอเจนซี่ต่าง ๆ ที่มีส่วนช่วยในการหางาน หรือสร้าง Profile ออนไลน์ให้น่าสนใจ เพื่อทำให้ Recruiter สามารถหาเราเจอ และรู้จักเราได้มากขึ้น ตัวอย่าง Online Platform ในการช่วยหางาน ก็อย่างเช่น LinkedIn และ JobsDB เป็นต้น

 

พิจารณาการทำงานระยะไกลด้วย

อย่าปิดโอกาสของตัวเองให้กับงานต่างประเทศ หรืองานที่สามารถทำอยู่ที่บ้านได้ มีหลากหลายบริษัทที่เปิดใจกับการให้พนักงานต่างประเทศทำงานจากบ้านมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นลองยื่นบริษัทเหล่านั้นในตำแหน่งที่เราสนใจดู ก็เป็นการเพิ่มทางเลือกในการทำงานให้กับตัวเองง่าย ๆ ได้อีกเช่นกัน

 

ใช้ฟีเจอร์หางานของ LinkedIn

เป็นที่รู้กันอย่างกว้างขวางว่า LinkedIn คือ Platform หางานที่ค่อนข้างถูกใช้งานกันอย่างเป็นสากลและเป็นที่รู้จักแพร่หลายทั่วโลก เพราะฉะนั้นหากเรารู้จักการใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ บน LinkedIn ก็ถือว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ Recruiter สามารถหาเราเจอได้ง่ายขึ้นอย่างมาก ตัวอย่างฟีเจอร์เช่น ‘Open to Work’ เป็นการเปิด banner ให้ Recruiter เห็นว่าเรากำลังสนใจที่จะหางานใหม่อยู่ หรือ ‘Job Alerts’ ที่ทำให้เราสามารถตั้งค่าให้แอพพลิเคชันมีการแจ้งเตือนเมื่อตำแหน่งที่สนใจเปิดรับผู้สมัครงาน ก็จทำให้เราตามข่าวสารการเปิดรับสมัครได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น

 

ใช้ Community ให้เป็นประโยชน์ในการหางาน

ลองดู Job Board หรือกลุ่มหางานต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ หลายบริษัทเลือกที่จะประกาศตามหาคนทำงานผ่านทางกลุ่มที่รวบรวมคนหางาน หรือคนในแวดวงทำงานที่เราต้องการหามาในบริษัท เพราะฉะนั้นให้ตามหากลุ่มเหล่านั้นและนำตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นพร้อมกับอัพเดทอยู่เสมอ

 

ใช้งาน Social Media ให้เป็นประโยชน์

มีหลากหลาย Platform ที่สามารถช่วยเราหางานได้ ไม่ว่าจะเป็น Facebook Instagram ไปจนถึง TikTok มีหลากหลายบริษัทที่มีการประกาศรับสมัครงานผ่านทาง Social Media รวมถึงหากเรามีเวลาและสามารถจัดการ Social Media Profile ของตัวเองได้ดี ก็ทำให้มีโอกาสที่ Recruiter จะเข้าหาเรามากขึ้นเช่นกัน

 

 

อ้างอิง: https://www.linkedin.com/pulse/how-find-get-job-fast-8-proven-tips-from-hr-expert-tom%C3%A1%C5%A1-ondrejka/

Author

  • CareerVisa Team

    รวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการพัฒนานอกกรอบของคนทำงาน

Related   Articles

ดูยังไงว่าคนสัมภาษณ์งานกำลังพูดไม่จริง

ผลวิจัยเผยว่า คนเรา “โกหก” ซึ่งๆ หน้าเวลาสัมภาษณ์งานมากกว่าที่คิด เพื่อปกปิดเรื่องที่ไม่อยากให้รู้ หรือให้รู้แค่บางส่วนเท่าที่อยากให้รู้พอ หลายคนทำไปเพราะสถานการณ์บังคับ คือพื้นฐานเป็นคนดีมีจรรยาบรรณ แต่จังหวะสำคัญนี้ก็ต้องขอซักหน่อย เพราะใครๆ ก็อยากได้งาน

คนแบบไหนที่ไม่น่าอยู่ในอำนาจได้นาน 

การไต่เต้าขึ้นมาเป็นหัวหน้ามีอำนาจในมือ vs. การรักษาตำแหน่งหัวหน้าและอำนาจในมือ เป็น 2 สิ่งที่ดูเผินๆ เหมือนกัน แต่ถ้าดูลึกๆ จะพบว่าต่างกันสิ้นเชิง